User ยินดีต้อนรับ ผู้มาเยี่ยม
   

ให้บริการเช่ารถตู้ พร้อมคนขับ สำหรับ : ท่องเที่ยว ประชุม สัมมนา ตีกอล์ฟ รับ-ส่ง แบบรายวัน วิ่งงานประจำ
บริการเช่ารถตู้เอ็นจีวี เป็นรถตู้รุ่นใหม่ รุ่น VVT-I สามารถใช้ได้ทั้งระบบก๊าซเอ็นจีวี และระบบน้ำมัน
ที่ได้รับมาตรฐานจากศูนย์เอ็นจีวีคาร์เซ็นเตอร์ ความปลอดภัยดีเยี่ยม
เป็นรถประหยัดเชื้อเพลิง เพียง กม.ละ 1 บาท เท่านั้น ภายในรถตู้กว้าง พร้อมเครื่องเสียง ทีวี แอร์เย็นฉ่ำ
จองที่พักปาย
จองที่พักปาย
โต๊ะจีนนครปฐม โต๊ะจีนดี คุณภาพอาหารเยี่ยม ไมตรีโภชนา
โต๊ะจีนนครปฐม โต๊ะจีนดี คุณภาพอาหารเยี่ยม ไมตรีโภชนา
  NewTopic NewReply
 Topic เมืองปาย สีสัน แห่งความสวยงาม และความสุข
User anna (Administrator)
เป็นสมาชิกเมื่อ : 18/3/2552
โพสต์ : 83
 
Vcard 3 มิถุนายน 2552 - 00:02:37 น.  
DotE

ทัวร์ปาย 5,500 บาท รถตู้ VIP จาก กทม. ทัวร์แม่ฮ่องสอน ทัวร์ปางอุ๋ง ทัวร์หมู่บ้านรักไทย ห้วยน้ำัดัง ภูโคลน กะเหรี่ยงคอยาว ถนนคนเดินทาปาย ถ้ำลอดปางมะผ้า พระธาตุดอยกองมู เมืองปาย สีสัน แห่งความสวยงาม และความสุข
วันที่ใครหลาย ๆ คน อยากให้มาถึง วันที่หลาย ๆ คน ตั้งหน้าตั้งตารอคอย อยากถึงวันนั้นเร็ว ๆ คือ เทศกาลวันปีใหม่ หลายต่อหลายคนหยุดเพื่อพักผ่อน หลายต่อหลายคนจัดงานสังสรรค์ที่บ้าน หรือที่ทำงาน แต่กลุ่ม annaontour
เรายังคงเดินทางอยู่ เพื่อค้นหาที่สิ่งที่จะก่อให้เกิดความสุขและความประทับใจจากการเดินทาง ทริปนี้เราจึงมุ่งหน้าสู่ อำเภอปาย เมืองแห่งความสุข ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขา และแสงสียามราตรี ผม ป้อมปี่และสมาชิกสองสาว ได้แก่ น้องจุ๋ม และน้องเล็ก ร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย พวกเรานัดเจอกัน และออกเดินทางช่วงประมาณ 5 โมงเย็น ของวันที่ 30 ธ.ค.ที่หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม หลังเลิกงาน การเดินทางครั้งนี้พวกเราใช้รถยนต์ส่วนบุคคล โดยใช้พลังงานแก๊ส LPG และน้ำมันในการเดินทาง (ต้องการเซฟค่าใช้จ่ายครับ เนื่องจากตลอดเส้นทางที่เดินทาง รวมถึงที่ อ.แม่ฮ่องสอน และ อ.ปาย มีปั๊มแก๊ส LPG) พวกเราเดินทางจาก จ.นครปฐม ไปทาง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ผ่าน จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์ ผ่าน จ.กำ แพงเพชร จ.ตาก จากนั้นพวกเราก็เข้าสู่ จ.แม่ฮ่องสอน




ประมาณตอน ตีห้าเห็นจะได้ ก็ไปอยู่ที่อุทยานแห่งชาติออบหลวงแล้ว แต่พวกเรายังไม่ได้เที่ยวกันทันที เพราะยังมืดอยู่ จึงออกไปหาอะไรรองท้องกันก่อน มื้อนี้ผมได้ กาแฟ และไข่ลวก 4 ฟอง เพิ่มพลังในการเดินทางของทริปนี้เป็นมื้อแรกก่อน เรานั่งรอจนฟ้าเริ่มสางผมก็พา 2 สาว เดินเข้าไปชมออบหลวง ที่เขาบอกว่าเป็น Unseen in Thailand คำว่า ออบหรือ อ๊อบหมายถึง ช่องแคบ ส่วนคำว่า หลวงหมายถึง ใหญ่ ออบหลวงคือชื่อเฉพาะที่ใช้เรียกช่องเขาขาด ซึ่งเป็นผาหินขนาดสูงใหญ่ เบื้องล่างมีแม่น้ำแม่แจ่มไหลผ่าน มีความลึกของหุบเหวจากระดับถนน 108 ถึงระดับน้ำปกติประมาณ 50 เมตร ส่วนแคบสุด 2 เมตร ความยาวของช่องแคบประมาณ 300 เมตร

สองสาวเก็บรูปความประทับใจกันได้ซักพัก ก็บอกให้ผมขับรถพาไปเที่ยวต่อที่ทุ่งดอกบัวตองต่อ ถึงแม้ดอกจะเริ่มโรยราแล้ว ก็มิอาจห้ามสองสาวนี้ได้ แต่ระหว่างจะไปดอยแม่อูคอ พวกเราต้องเดินทางผ่าน อ.แม่สะเรียง ก่อน จึงได้แวะเข้าไปทำบุญตอนเช้าเพื่อเป็นศิริมงคลเสียก่อนเดินทางต่อ

จากนั้นผมจึงพาสองสาวและป้อมปี่ขึ้นดอยแม่อูคอทันที ดอยแม่อู่คอมีพื้นที่ครอบคลุมเป็นเขากว้างประมาณ 1 พันไร่ อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการพัฒนาป่าไม้ที่สูง หน่วยที่ 5 กองอนุรักษ์ต้นน้ำ ดอกบัวตองจะบานเต็มดอยประมาณ กลางเดือน พฤศจิกายน หลังจากที่ได้ขึ้นดอยแม่อูคอพวกเราก็เห็นดอกบัวตองโรยรามาแต่ไกล แต่ก็ยังความสวยงามอยู่แต่เป็นสีน้ำตาลเต็มดอย ผมจึงตัดสินใจพาสองสาวเที่ยวตรงจุดซื้อของฝาก และชมสวนดอกไม้ก่อนขึ้นดอยแม่อูคอแทน ตรงจุดนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักรถ และแวะชม พร้อมถ่ายรูปสวนดอกไม้ และซื้อของฝากที่จุดนี้
เมื่อได้ความประทับใจและของฝาก รวมทั้งของกิน เป็นมันเผาร้อน ๆ เนื้อมันหอมหวาน อยากจะเหมาทั้งร้าน แต่ก็กลัวว่าจะกินไม่หมด







พวกเราลงจากดอยแม่อูคอ ก็มุ่งหน้าไปยังเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อเที่ยวชมพระธาตุดอยกองมู ต่อทันที วัดนี้เดิมมีชื่อเรียกว่า วัดปลายดอย เป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญ ประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2 องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดย จองต่องสู่ เมื่อ พ.ศ. 2403 เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ซึ่งนำมาจากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ. 2417 โดย พระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก พวกเราขึ้นไปกราบนมัสการพระธาตุดอยกองมู และชมวิวทิวทัศน์ของเมืองแม่ฮ่องสอนจากจุดนี้ได้อย่างงดงาม


จากนั้นพวกเราก็เดินทางลงจากพระธาตุดอยกองมู และเข้าที่พักที่เพ็ญพรเฮ้าส์ เพื่อพักผ่อนและเตรียมตัวย่ำราตรีเมืองแม่ฮ่องสอนต่อในคืนนี้




ตะวันเริ่มลับของฟ้า แต่แสงสีของเมืองแม่ฮ่องสอนก็ยังสว่าง ผู้คนพลุกพล่านและมารวมตัวกันที่ถนนคนเดินของเมืองแม่ฮ่องสอน พวกเราย่ำราตรีเที่ยวชมตลาดมืดเมืองแม่ฮ่องสอน และจับจ่ายซื้อของฝาก จนได้ที่ จึงเดินทางกลับที่พักเพื่อพักผ่อน


เช้ามืดของวันใหม่เริ่มขึ้น พวกเราจึงออกเดินทางด้วยพาหนะประจำทริป บนเส้นทางที่คดเคี้ยว สูงชัน และลาดชัน เพื่อเข้าไปสัมผัส ปางอุ๋ง หรือ โครงการพระราชดำริปางตอง 2 ดินแดนแห่งความสวยงาม ที่มีสายหมอกลอยอยู่บนทะเลสาบที่มีสายน้ำอันแน่นิ่ง สัมผัสกับแสงแดดอ่อน ๆ ที่สาดแสงลงมาสะท้อนกับผืนน้ำ พวกเราชมความสวยงามได้พักใหญ่ก็ต้องรีบเดินทางต่อ เพราะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาชมกันมาก


พวกเราจึงเดินทางต่อมายัง หมู่บ้านรักไทย ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย-เมียนม่าร์ โดยมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่อยู่ใจกลางของหมู่บ้านรักไทย อ่างเก็บน้ำนี้ก็สร้างความสวยงามไม่แพ้กับปางอุ๋ง เพราะไอหมอกที่ลอยู่บนเหนือน้ำ มีความสวยงามไม่แพ้กัน ที่นี่ยังมีเอกลักษณ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การสร้างบ้านด้วยดิน และมีชนเผ่าหลายเผ่าอาศัยอยู่ อาทิเช่น ชาวไทใหญ่ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ การได้เข้ามาชิมอาหารจีนยูนานที่เลื่องชื่อของหมู่บ้านรักไทยนี้








พวกเราเข้าไปทานอาหารที่ร้านเจ้เนียง ซึ่งเป็นชาวจีนยูนนานที่อยู่ที่นี่มาเป็นเวลานาน เรามาที่นี่กี่ครั้งก็ยังคงพบเจ้เนียงที่ยังคงมีสุขภาพแข็งแรงเหมือนเดิมทุกครั้ง ที่พวกเราได้พบ และที่สำคัญการทำขาหมู มันโถ ของเจ้เนียงยังคงรสชาติอร่อยทุกคร้งที่ได้ชิม จึงทำให้นักท่องเที่ยวเต็มร้านเจ้เนียงอยู่เสมอ





พวกเราเดินทางลงจากหมู่บ้านรักไทย และมุ่งหน้าสู่ อำเภอปาย เมืองที่ใครต่อหลายคนอยากเข้าไปสัมผัส เราเดินทางเข้าสู่เมืองปายประมาณ 5 โมงเย็น ก็เดินทางเข้าสู่ที่พักที่ ท่าปายแอซโซติค พวกเราพักที่รีสอร์ทนี้ ท่ามกลางบรรยากาศแบบคันทรี่ และแช่น้ำแร่ที่ต่อเข้ามาที่บ้านพัก เพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยหล้าจากการเดินทางมาทั้งวัน



พอตกดึก พวกเราก็เดินทางเข้าตัวเมืองปาย เพื่อชมแสง สี เสียง บรรยากาศ บนถนนคนเดิน ที่คับคั่งไปด้วยผู้คนอันมากมาย แต่ก่อนอื่นต้องหาอาหารใส่ท้องก่อน พวกเราตั้งเป้าไปที่ร้านชาลีแอนด์เล็ก ที่อยู่ติดถนนคนเดินที่ตัวเมืองปาย เป็นร้านอาหารสไตล์คันทรี่ และอาหารจะออกแนวยุโรป พวกเราได้ลิ้มลองอาหารมื้อเย็นที่นี่ก็ต้องยกนิ้วให้ว่าอร่อยจริง ๆ ครับ



เมื่อได้เติ่มพลังแล้ว จากร้านอาหารชาลีแอนด์เล็ก พวกเราก็เริ่มเดินย่ำถนนยามราตรีที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน ตามร้านค้าต่าง ๆ เช่น ร้านปายโพส ที่มีการแสดงดนตรีสด และลีลาของนักดนตรี โดนใจนักท่องเที่ยวใครต่อหลายคน ร้านมิตรไทย ร้านที่จำหน่ายโปสการ์ดของเมืองปาย ที่บริการส่งโปสการ์ดที่ร้านได้เลย พวกเราเดินเพลินจนเวลาปาเข้าไป 5 ทุ่ม จึงเดินทางกลับที่พักที่ท่าปายแอซโซติคเพื่อพักผ่อนเอาแรงไว้ก่อน






รุ่งเช้าประมาณ 7 โมงเช้า พวกเราตื่นนอน และเช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก และมุ่งเข้า ตัวเมืองปาย เพื่อชมบรรยากาศยามเช้าที่เมืองปาย



แต่พวกเรายังคงอยู่ในเมืองปาย เพื่อชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ๆ ต่อ จุดแรกที่เราคิดว่าจะไปก็คือ วัดน้ำฮู ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระอุ่นเมือง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสิงห์สาม (ศิลปะล้านนา) ปางมารวิชัยทำด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์ มีลักษณะพิเศษคือพระเศียรกลวง พระโมฬีปิดเปิดได้ และมีน้ำซึมออกอยู่เสมอประวัติการสร้างไม่แน่นอนแต่เชื่อกันว่าสร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นพระราชกุศลถวายพระพี่นางพระสุพรรณกัลยา พวกเรานมัสการหลวงพ่ออุ่นเมืองเพื่อเป็นสิริมงคลแล้ว จึงออกเดินทางต่อทันทีเพื่อไปยัง ศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน

ศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน เป็นสถานที่ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของชาวเขาของชนเผ่าต่าง ๆ แห่งนี้ ภายในบริเวณยังมีร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึกและของฝาก เป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวเขาส่วนใหญ่ได้นำมาจากประเทศจีนเพื่อนำมาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว แต่ที่ทำให้พวกเราติดอกติดใจที่แห่งนี้ ก็คือการที่ได้ไปเล่นชิงช้าชนเผ่า ที่มีเด็ก ๆ ใน ศูนย์วัฒนธรรมแห่งนี้อำนวยความสะดวกในการหมุนชิงช้ากันอย่างสนุกสนาน (หัวใจจะวาย หมุนกันเหนี่ยวเล่นเอาคนหนุ่มไฟแรงอย่างพี่แทบแย่) หลังจากได้สนุกกันเต็มเหนี่ยว พวกเราก็ออกเดินทางต่อไปยังร้านส้มตำหน้าอำเภอ (หิวแล้ว)

พวกเราแวะหม่ำส้มตำหน้าอำเภอปาย ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเข้าไปทานกันอย่างคับคั่ง รสชาติอาหารส่วนใหญ่ใช้ได้ครับ แต่บางอย่างอาจไม่ถูกปาก อาจเป็นเพราะว่านักท่องเที่ยวเยอะเลยทำให้คนทำรีบตำไปหน่อยหรือเปล่า






หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้ว พวกเราจึงแวะถ่ายเสาหลักเมืองปายเก่า ที่ตั้งอยู่หน้าอำเภอ เพื่อให้รู้ว่าพวกเราไปปายมาแล้ว จึงออกเดินทางต่อไปยัง ปายแคนยอน หรือกองแลน


กองแลน หมายถึง ถนนของตัวตะกวดใช้สัญจรบนเส้นทงาเล็ก ๆ บนเหวลึก
กอง เป็นภาษาพื้นเมืองแปลว่าถนน ใช้สัญจรไปมา พวกเราเดินขึ้นไปบนเขาที่ค่อนข้างสูงพอประมาณ เล่นเอาเหนื่อยไม่ใช่น้อย (หรืออายุพวกเราเริ่มจะเยอะขึ้น) เพื่อจะชมกับปายแคนยอน และก็ไม่ผิดหวังเมื่อขึ้นไปแล้วก็ต้องพบกับความสวยงามของวิวด้านบนและอากาศที่เย็นสบาย ของปายแคนยอน และได้พบเห็นเส้นทางแคบ ๆ ที่อยู่บนสันเขา ที่เรียกว่า กองแลน พวกเราได้แต่ยืนดูนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ เดินไปมา (แค่เห็นก็เสียวแล้ว) และเก็บรูปความสวยงามก็เดินทางลงมาที่ยานพาหนะพวกเราต่อไปเดินทางไปยัง สะพานประวัติศาสตร์ท่าปายก่อนเดินทางกลับบ้าน





สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2485 ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำปาย
ปัจจุบันสะพานได้ถูกซ่อมแซมจนสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชม สามารถเดินข้ามสะพานไปมา เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศของแม่น้ำปาย พวกเราเก็บภาพความประทับใจที่สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย และร้านอาหารที่อยู่บริเวณสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ ก่อนเดินทางออกจากอำเภอปาย ซึ่งจุดนี้เปรียบเสมือนประตูสู่เมืองปาย ก่อนที่จะเดินทางกลับ จ.นครปฐม ที่ตั้งของพวกเรา และคิดว่าพวกเราต้องกลับมาอีกแน่นอนในครั้งต่อไป พบกันใหม่ในครั้งหน้าเมืองปาย สีสัน แห่งความสวยงาม และความสุข





เรื่องเล่าการเดินทาง จาก Mr.annaontour

DotE
LastUpdate ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2552 - 00:28:17 น.
 
Information ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของระบบไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม กรุณาแจ้งที่ Email annop_nanya@hotmail.com เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
Copyright © 2009 www.annaontour.com. All rights reserved.
Untitled Document
สถิติผู้เข้าชม ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 4 ราย