User ยินดีต้อนรับ ผู้มาเยี่ยม
   

ให้บริการเช่ารถตู้ พร้อมคนขับ สำหรับ : ท่องเที่ยว ประชุม สัมมนา ตีกอล์ฟ รับ-ส่ง แบบรายวัน วิ่งงานประจำ
บริการเช่ารถตู้เอ็นจีวี เป็นรถตู้รุ่นใหม่ รุ่น VVT-I สามารถใช้ได้ทั้งระบบก๊าซเอ็นจีวี และระบบน้ำมัน
ที่ได้รับมาตรฐานจากศูนย์เอ็นจีวีคาร์เซ็นเตอร์ ความปลอดภัยดีเยี่ยม
เป็นรถประหยัดเชื้อเพลิง เพียง กม.ละ 1 บาท เท่านั้น ภายในรถตู้กว้าง พร้อมเครื่องเสียง ทีวี แอร์เย็นฉ่ำ
จองที่พักปาย
จองที่พักปาย
โต๊ะจีนนครปฐม โต๊ะจีนดี คุณภาพอาหารเยี่ยม ไมตรีโภชนา
โต๊ะจีนนครปฐม โต๊ะจีนดี คุณภาพอาหารเยี่ยม ไมตรีโภชนา
  NewTopic NewReply
 Topic ชอบจังเลย ภูเรือ เชียงคาน สีสันแห่งปายแรกแย้ม
User anna (Administrator)
เป็นสมาชิกเมื่อ : 18/3/2552
โพสต์ : 83
 
Vcard 6 มีนาคม 2553 - 16:20:41 น.  
DotE
ชอบจังเลย ภูเรือ เชียงคาน สีสันแห่งปายแรกแย้ม
มีคนเคยถามผมว่าไปเชียงคานมาแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่เคยไปให้รีบไปเที่ยวก่อนที่เชียงคานจะเหมือน อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพราะตอนนี้เมืองเชียงคานเหมือนเมืองปายแรกแย้มเข้าไปทุกที ถ้าหากไม่ได้ไปเมืองเชียงคานวันนี้ ก็อาจไม่ได้ชมวิถีชีวิตอันเงียบสงบ เรียบง่าย ของชาวบ้านเมืองเชียงคาน ที่ปลูกบ้านเป็นเรือนแถวบ้านไม้สองชั้น ติดเรียงรายเรียบริมฝั่งแม่น้ำโขง ส่วนประเพณี วัฒนธรรม ผสมผสานระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาว และที่สำคัญไฮไลท์ของการมาเที่ยวเมืองเชียงคาน คือการได้ขี่จักรยานเที่ยวเมืองเก่าเชียงคาน

ผมในฐานะนักเดินทางตัวยงไม่รอช้าที่จะเก็บสัมภาระทันที พร้อมกับนัดเพื่อนในกลุ่มที่รู้ใจอย่างป้อมปี่ ยูมิโกะ และแก้มป่อง เดินทางไปด้วยกัน แต่การเดินทางในครั้งนี้ฉุกละหุกไม่ใช่น้อย ความพร้อมของรถยนต์ที่ใช้ก็ไม่พร้อม ต้นทุนในกระเป๋าก็น้อย เลยตัดสินใจใช้รถตู้ NGV ดีกว่า เพราะรู้ว่าประหยัดกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง

เราได้รับการสนับสนุนจากทีมงานรถตู้ NGV ในการให้บริการ นัดเจอกันที่ สายใต้ใหม่ตอน 2 ทุ่มตรง เมื่อถึงเวลารถตู้ก็มาถึงพร้อมกับคุณเจมส์พนักงานขับรถตู้ผู้ชำนาญเส้นทางก็เดินทางมาถึง น้องเจมส์พาพวกเราออกมาทางเส้นบางบัวทอง เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดสระบุรี (แวะเติมก๊าซ NGV เป็นปั๊มแรก) เข้าสู่เส้นทางหลวงหมายเลข มุ่งหน้าไปทางโคราช จากนั้นมุ่งหน้าออกไปทางจังหวัดชัยภูมิฎมิ โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 201 ผ่านอำเภอสี่คิ้ว อำเภอด่านขุนทด แวะเติมก๊าซ NGV ที่ปั๊ม ปตท. อำเภอจัตุรัส วิ่งผ่านตัวเมืองชัยภูมิ ผ่านอำเภอแก่งคร้อ มุ่งหน้าสู่อำเภอชุมแพ จังหวัดของแก่น (แวะเติมก๊าซ NGV บริเวณสี่แยกชุมแพ) จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ จังหวัดเลย โดยวิ่งผ่านผานกเค้า ผ่านทางแยกไปภูกระดึง มุ่งหน้าสู่ สี่แยกอำเภอวังสะพุง (แวะเติมก๊าซ NGV เลยสี่แยกวังสะพุงประมาณ 1กิโล เมตร ทางด้านฝั่งตรงข้าม) จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ ตัวอำเภอเมืองจังหวัดเลย



พวกเราตั้งเป้าการเดินทางไว้แล้วว่าจะเดินทางไปเที่ยวในอำเภอภูเรือก่อน จากนั้นจึงเลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอภูเรือ โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 203 ซึ่งห่างจากตัวอำเภอเมืองเลย ประมาณ 50 กิโลเมตร แต่เส้นทางช่วงที่ไปภูเรือจะเป็นเขาคดเคี้ยว น้องเจมส์คนขับรถของเราจึงขอสลับเป็นระบบน้ำมันเบนซินวิ่งขึ้นเขาจนถึงตัวอำเภอภูเรือ จึงแวะทานอาหารเช้าที่ตลาดสดเทศบาลภูเรือก่อน มื้อนี้ไม่มีอะไรมาก กาแฟคนละแก้ว เพราะช่วงที่เราไปยังไม่เข้าสู่ฤดูหนาวเลย และยังไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวของอำเภอภูเรือ ร้านอาหารมีเพียงไม่กี่แห่ง และแต่ละแห่งมีของอาหารให้เลือกน้อยมาก



ระหว่างที่จิบกาแฟไม่นาน ก็รู้สึกได้ถึงอากาศที่เย็น จนต้องไปหยิบเสื้อกันหนาวมาใส่ หลังจากกาแฟหมดพวกเราก็ออกเดินทางขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติภูเรือทันที และเสียค่าเข้าอุทยานคนละ 30 บาท อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตั้งอยู่ในเขตตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ มีเนื้อที่ประมาณ 75,525 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2522 เดือนที่เหมาะมาเที่ยวคือเดือนตุลาคม ถึงมีนาคม
ภูเรือเป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลกคือมีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาใหญ่ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ได้แก่ ผาโหล่นน้อย ผาซำทอง น้ำตกห้วยไผ่ ยอดภูเรือ พวกเราเดินทางไม่นานก็ถึงที่ทำการอุทยานระหว่างที่จิบกาแฟไม่นาน ก็รู้สึกได้ถึงอากาศที่เย็น จนต้องไปหยิบเสื้อกันหนาวมาใส่ หลังจากกาแฟหมดพวกเราก็ออกเดินทางขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติภูเรือทันที และเสียค่าเข้าอุทยานคนละ 30 บาท อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตั้งอยู่ในเขตตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ มีเนื้อที่ประมาณ 75,525 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2522 เดือนที่เหมาะมาเที่ยวคือเดือนตุลาคม ถึงมีนาคม
ภูเรือเป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลกคือมีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาใหญ่ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ได้แก่ ผาโหล่นน้อย ผาซำทอง น้ำตกห้วยไผ่ ยอดภูเรือ พวกเราเดินทางไม่นานก็ถึงที่ทำการอุทยาน


จากนั้นก็ขอโบชัวร์สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ ระหว่างทางขึ้นยอดภูเรือพวกเราก็พบกับไอหมอกสีขาวหนาแน่นจนมองเห็นทางลาง ๆ พวกเรามุ่งหน้าสู่ผาโหล่นน้อยเพื่อชมทะเลหมอก และสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าพวกเราก็คือ หมอกหนาแน่นมากจนมองไม่เห็นอะไรเลย มีแต่สีขาวเต็มไปหมด







จากนั้นพวกเราก็ยังเดินชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อยู่มาก ช่วงจังหวะที่พวกเราไปเจ้าหน้าที่ดูแลอุทยานฯ บอกกับพวกเราว่าน้ำตกหินสามชั้นกำลังสวย ให้ลองไปดูประมาณ 800 เมตร ระหว่างการเดินทางไปชมพวกเราจะได้ยินเสียงร้องของจักจั่นเซ็งแซ่ตลอดการเดินทาง น้ำตกหินสามชั้นเป็นน้ำตกเล็ก ๆ ที่มีน้ำไหลลดหลั่นกันสามชั้นตามชื่อด้วยกัน ช่วงที่จะชมน้ำตกสวยต้องเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว พวกเราแวะถ่ายรูปและนั่งพักเล่นน้ำที่เย็นเป็นยะเยือกจนได้ใจก็ได้เดินทางลงจากยอดภูเรือ โดยระหว่าทางที่จะไปภูเรือพวกเราแวะร้านอาหารกะต๊าก ซึ่งเป็นทางผ่านที่ดูสะอาด ถูกสุขลักษณะ ร่มรื่น จึงแวะเติมพลังที่ร้านกะต๊ากก่อนด้วยเมนูพื้นบ้านข้าวผัดกระเพราะลาดข้าว + ไข่เจียว คนละจาน น้ำคนละแก้วก็เริ่มเดินทางต่อ






พวกเราเดินทางย้อนมาทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 203 ทางเดิม โดยมีระยะห่างจากภูเรือประมาณ 10 กิโลเมตรกว่า ๆ ก็จะพบแยกขวา ไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง โดยต้องขับไปตามเส้นทางหลวงชนบท ลย.3023 ไปอีกประมาณ 18 กิโลเมตร ก็จะพบที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง พวกเราใช้บัตรผ่านที่เข้าทางอุทยานแห่งชาติภูเรือได้ เพราะเดินทางอยู่ในวันเดียวกัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ตั้งอยู่ในบริเวณท้องที่อำเภอวังสะพุง อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย อำเภอภูหลวงภูหลวงมีความหมายว่าเขาที่สูงใหญ่ หรือหมายถึงภูเขาของพระเจ้าแผ่นดิน เกิดจากการยกตัวของพื้นผิวโลกและดินส่วนที่อ่อนพัดพาลงสู่พื้นที่ส่วนต่ำ ภูหลวงประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2517 มีพื้นที่ประมาณ 560,593 ไร่สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ราบสูง อากาศเย็นตลอดปี


ระหว่างการเดินทางพวกเราจะได้พบกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ป่าไม้ยังหนาแน่น เขียวขจี มีธารน้ำเล็ก ๆ ไหลเสมือนน้ำตกเล็ก ๆ อยู่บริเวณริมทางเป็นระยะ ๆ นกหลายพันธุ์ชนิดปรากฏตัวให้เห็นระหว่างการเดินทาง บนเส้นทางที่พวกเราขับรถผ่านยังเห็นมูลช้างเกือบตลอดทั้งเส้น แสดงว่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงสมบูรณ์มากจริง ๆ



พวกเราเดินทางถึงด้านบนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ก็สัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็นสบาย บริสุทธิ์ ด้านบนมีเจ้าหน้าที่ให้บริการอยู่ 2 ท่าน และแนะนำให้พวกเราถึงสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ได้แก่ ผากุหลาบแดงผากุหลาบขาว น้ำตกโคกนกกระบา ลานสุริยัน โคกพรหมจรรย์ ผาช้างผ่าน ผาสมเด็จ ผาเตลิ่น รอยเท้าไดโนเสาร์ แปกดำ แปกใหญ่ น้ำตกตาดเลย พวกเราแวะชมวิวที่จุดชมวิว และเดินชมธรรมชาติ จนถึงช่วงเวลา 15.00 น. ก็เดินทางออกจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง





พวกเราเดินทางอีกประมาณ 30 กว่ากิโลเมตร ก็มาถึงตัวอำเภอเมืองเลย และเดินทางต่อไปยังเส้นทางหลวงหมายเลข 201 ไปอีกประมาณ 48 กิโลเมตร ก็จะถึงอำเภอเชียงคาน เชียงคาน เมืองเก่าเชียงคาน เป็นเมืองแห่งความเงียบสงบ ดำเนินวิถึชีวิตแบบเรียบง่าย บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นเรือนแถวบ้านไม้สองชั้น ปลูกติดเรียงรายเรียบริมฝั่งแม่น้ำโขง



พวเราเดินทางมาถึงที่เชียงคานก็ประมาณ ุ6 โมงเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ถนนคนเดินกำลังเริ่มคึกคื้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ขี่จักรยานมาเที่ยวชมร้านค้าที่ตกแต่งไปด้วยความสวยงามแบบอาร์ท ๆ ซึ่งสองฝั่งที่เป็นบ้านไม้สองแถวประดับประดาด้วยไฟหลากสีสัน และข้อความที่สนใจเกี่ยวเชียงคานมากมาย โดยบ้านเรือนไม้สองแถวถูกแปลสภาพให้เป็นร้านจำหน่ายของที่ระลึก และห้องพักเป็นส่วนใหญ่ ประมาณว่ากำลังจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบเมืองปายแล้ว แต่ร้านค้ายังไม่เยอะเท่ากับเมืองปาย แบบว่าร้านค้ากำลังพอดี ส่วนนักท่องเที่ยวก็ไม่เยอะเกิน ไม่แออัดเดินเที่ยวได้แบบสบาย ๆ






พวกเราเดินทางช็อปปิ้งกันซักพักใหญ่ ท้องก็เริ่มร้อง จึงเดินมองหาร้านอาหารซักร้านที่ติดริมแม่น้ำโขง ก็ไปสะดุดตาที่ครัวโพธิ์ทอง จึงแวะเข้าไปสั่งอาหารเมนูที่พวกเราสั่ง ต้มยำปลาบึก ผัดฉ่าปลาคัง ยำผักกูด แค่นั้นแหละเจ้าของร้านพอเถอะเดี๋ยวทานไม่หมด พวกเราจึงขอสั่งอาหารเพียง 3 อย่างตามคำแนะ พอพนักงานมาเสริฟก็ต้องอึ้งเพราะชามที่มาใส่ใบเบ้อเร้อเลย และอาหารก็เยอะตามที่เจ้าของร้านบอกจริง ๆ ส่วนรสชาติแซบครับ อิ่มแปร้สำหรับอาหารมื้อเย็น






จากนั้นก็ตระเวนหาที่พัก แต่ช่วงที่พวกเราเดินทางไปคนเยอะห้องพักบริเวณริมโขงเต็ม จึงออกไปหาที่พักบริเวณบริเวณถนนเส้นหลัก และก็ได้ที่พักที่แดงดอกไม้สด เป็นห้องพักราคาไม่แพงห้องละ 400 บาท ต่อคืน มีแอร์ ทีวี เคเบิล ที่จอดรถ สะดวกสบาย พวกเราพักที่นี่ 1 คืน





รุ่งเช้าพวกเราตื่นแต่เช้าเพื่อไปตักบาตรข้าวเหนียว ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมของคนที่นี่

จากนั้นพวกเราก็ออกเดินทางต่อไปชมทะเลหมอกภูทอก ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 211 ทางไป อ.ปากชม ผ่านแยก แก่งคุดคู้ ไม่ไกลจะมีแยกทางขวามือ (สังเกตุป้าย สถานีทวนสัญญาณ 483) ระยะทางเข้าไปประมาณ 5 ก.ม. การเดินทางสะดวก (ดูแผนที่การเดินทางได้ที่นี่) ภูทอก เป็นภูเขาที่สูงแห่งหนึ่งของอำเภอเชียงคาน โดยเป็นพื้นที่ที่เอกชนได้เข้ามาวางเสาร์สัญญาณ จุดนี้จึงเป็นจุดที่สามารถขึ้นไปชมทะเลหมอกได้อย่างสวยงามแห่งหนึ่งไม่แพ้ที่ไหน นอกจากจะชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จุดนี้ยังสามารถชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งเช่นกัน

หลังจากลงจากภูทอกพวกเราก็เดินทางเข้าตัวเมืองเชียงคาน เพื่อทานอาหารเช้ารองเท้าที่ร้านข้าวเปียกเส้นหน้าวัดป่ากลาง ซอย 10 ที่นี่มีทั้งข้าวเปียกเส้น ข้าวต้มเลือดหมู โจ๊ก ที่อร่อยจริง ๆ เพราะชาวบ้านและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ แวะมาทานกันอย่างมากมาย เห็นกับตาก็ยังไม่เชื่อเท่าไรต้องลองครับ "อร่อยถูกปากดีครับ เพราะเส้นของข้าวเปียกเส้นนุ่มเหนียว บวกกับน้ำซุปที่เข้มข้นได้ใจ ก็ทำให้มื้อนี้ต้องเบิลคนละ 2 ชาม



อิ่มอร่อยกันแล้วพวกเราก็เดินเล่นเรียบริมโขง ชมบรรยากาศฝั่งประเทศลาวให้เต็มตา และที่นี่ยังมีบริการเรือนำเที่ยวข้าวฝั่งไปประเทศลาวได้อีกด้วย แต่ด้วยเวลาที่รีบเร่งของพวกเรา ที่ต้องกลับกรุงเทพ จึงต้องหยุดทริปการเดินทางไว้เท่านี้ก่อน จากนั้นจึงเดินทางถึงที่หมายด้วยความสวัสดิภาพ จากการบริการของน้องเจมส์ พร้อมกับเสียค่าใช้จ่ายที่แสนประหยัดจากพลังงาน NGV เพียงประมาณไม่ถึง 1,300 บาท กับพลังงานน้ำมันอีก ประมาณ 500 บาท แล้วเอาไว้พบกันใหม่ครับ

ทีมงาน annaontour.com
DotE
LastUpdate ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2553 - 13:24:34 น.
 
Information ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของระบบไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม กรุณาแจ้งที่ Email annop_nanya@hotmail.com เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
Copyright © 2009 www.annaontour.com. All rights reserved.
Untitled Document
สถิติผู้เข้าชม ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 7 ราย