User ยินดีต้อนรับ ผู้มาเยี่ยม
   

ให้บริการเช่ารถตู้ พร้อมคนขับ สำหรับ : ท่องเที่ยว ประชุม สัมมนา ตีกอล์ฟ รับ-ส่ง แบบรายวัน วิ่งงานประจำ
บริการเช่ารถตู้เอ็นจีวี เป็นรถตู้รุ่นใหม่ รุ่น VVT-I สามารถใช้ได้ทั้งระบบก๊าซเอ็นจีวี และระบบน้ำมัน
ที่ได้รับมาตรฐานจากศูนย์เอ็นจีวีคาร์เซ็นเตอร์ ความปลอดภัยดีเยี่ยม
เป็นรถประหยัดเชื้อเพลิง เพียง กม.ละ 1 บาท เท่านั้น ภายในรถตู้กว้าง พร้อมเครื่องเสียง ทีวี แอร์เย็นฉ่ำ
จองที่พักปาย
จองที่พักปาย
โต๊ะจีนนครปฐม โต๊ะจีนดี คุณภาพอาหารเยี่ยม ไมตรีโภชนา
โต๊ะจีนนครปฐม โต๊ะจีนดี คุณภาพอาหารเยี่ยม ไมตรีโภชนา
  NewTopic NewReply
 Topic เที่ยววันเดียวก็สุขใจ เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพ ที่สมุทรสงคราม
User anna (Administrator)
เป็นสมาชิกเมื่อ : 18/3/2552
โพสต์ : 83
 
Vcard 27 ตุลาคม 2554 - 00:37:57 น.  
DotE

เที่ยววันเดียวก็สุขใจ เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพ ที่สมุทรสงคราม ชิมอาหารทะเลที่ดอนหอยหลอด ดอดไปชมตลาดร่มหุบ แวะนมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม แถมยามเย็นยังได้ไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา

วันหยุดสั้น ๆ ที่ใครหลาย ๆ คนคิดไม่ออก ไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดี อันแน่ออนทัวร์ก็อยากจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลกรุงเทพ เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงแล้ว ซึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยวนั้นมากมายไม่เบื่อแน่นอนหากเดินทางเหมือนกับพวกเรา ทริปนี้ผมได้เด็กแว่นน้องในที่ทำงานซึ่งโตที่สมุทรสงครามเป็นคนนำทริปนี้ โปรแกรมการท่องเที่ยวก็ไม่ยาก เที่ยวตามเส้นทางที่พวกเราเดินทางผ่าน เดินทางไปเรื่อยปล่อยตัวปล่อยใจให้ว่าง ๆ จะได้สนุกกับการเดินทางไปด้วยกัน
เราเริ่มต้นที่สายใต้ใหม่ ตอนหกโมงเช้า วิ่งไปตามเส้นทางถนนบรมราชชนนี ทะลุถนนเส้นเพชรเกษม มุ่งหน้าผ่านตัว จ.นครปฐม ไปถึงสี่แยกบางแพ (ก่อนจะถึง จ.ราชบุรี) จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปทาง อ.บางแพ โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 325 มุ่งหน้าไปยังตลาดน้ำดำเนิน ประมาณไม่เกน 1 ชั่วโมงก็ถึงตลาดน้ำดำเนินแล้ว


เช้า ๆ ที่ตลาดน้ำดำเนินจะคึกคัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ มักจะแวะมาเที่ยวชมตลาดน้ำแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ตลาดน้ำดำเนินมีมาตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 เมื่อก่อนเป็นทางสัญจรทางน้ำ ปัจจุบันตั้งเป็นตลาดน้ำดำเนินและเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก เพราะมีการนำสินค้ามาจำหน่ายกันบนเรือเต็มคลองดำเนินสะดวกไปหมด นักท่องเที่ยวก็จะได้สัมผัสกับวิถีชาวบ้านของคนดำเนินสะดวกได้อย่างใกล้ชิด แต่สำหรับในทริปนี้แวะมาถ่ายภาพ และหาอาหารเช้าเบา ๆ รองท้องเท่านั้น จบจากการตระเวนถ่ายภาพก็มุ่งหน้าต่อไปยัง ตลาดร่มหุบต่อ



จากตลาดน้ำดำเนิน มายังตลาดร่มหุบ ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ออกจากตลาดน้ำดำเนินมุ่งหน้ามาทาง จ.สมุทรสงคราม ให้นำรถมาจอดแถวหน้าวัดบ้านแหลม เพราะมีที่จอดรถ จากนั้นก็เดินมาอีกนิดก็ถึงตัวตลาดร่มหุบ กับตลาดแม่กลอง จะเป็นตลาดแห่งเดียวกัน ภายในตลาดจะเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟแม่กลอง การเดินทางมาเที่ยวชมตลาดร่มหุบ ต้องเช็คเวลาเข้าออกของรถไฟด้วยนะครับไม่งั้นจะต้องเสียเวลาไปรอนาน แต่ระหว่างการรอชมก็ให้เดินชมสินค้าในตลาดแม่กลองก่อนก็ได้ เพราะมีสินค้าจำหน่ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเล ขนม ของฝาก พวกเรารอชมรถไฟขบวนเวลา 09.00 น. ก่อนที่รถไฟจะเข้าออกสถานีนายสถานีจะทำการส่งสัญญาณ เพื่อให้แม่ค้าเก็บของเก็บและเก็บร่มที่พาไปบนทางรถไฟ เมื่อรถไฟวิ่งผ่านนักท่องเที่ยวก็จะแอบถ่ายภาพบริเวณในร้านค้าที่ติดกับทางรถไฟ จนรถไฟวิ่งผ่านไปแม่ค้าก็จะกางร่มและตั้งร้านเหมือนเดิมภายในเวลาไม่กี่นาที ผมกับเด็กแว่นชอบมากครับ เพราะเมื่อก่อนตอนเป็นเด็กน้อยเด็กแว่นก็มาขายของที่นี่แหละแต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก แต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวกันมากจนทำให้ตลาดแม่กลองคึกคักผิดหูผิดตา และเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของ จ.สมุทรสงคราม








ก่อนพวกเราจะไปขึ้นรถก็แวะไปกราบนมัสการหลวงพ่อวัดบ้านแหลมก่อน วัดบ้านแหลมหรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เป็นวัดที่สำคัญของ จ.สมุทรสงคราม ตามประวัติเล่าว่า คราวหนึ่งชาวบ้านได้ออกไปลากอวนในอ่าวแม่กลองพบพระพุทธรูปติดอวนขึ้นมา 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปนั่ง อีกองค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปยืน สำหรับพระพุทธรูปนั่งได้นำไปประดิษฐานไว้ที่วัดเขาตะเครา อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี สำหรับพระพุทธรูปยืนอุ้มบาตรสูงประมาณ 167 เซนติเมตร (แต่บาตรนั้นสูญหายไปในทะเล สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภานุพันธ์วงศ์วรเดชได้ถวายบาตรไว้ให้บาตรหนึ่งเป็นบาตรแก้วสีน้ำเงิน) นำไปประดิษฐานไว้ที่วัดบ้านแหลม เรียกว่า หลวงพ่อบ้านแหลม ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพบูชา ของคนใน จ.สมุทรสงคราม และพุทธศาสนิกชนที่ได้เข้ามากราบไหว้หลวงพ่อวัดบ้านแหลม เพื่อความเป็นศิริมงคล พวกเราออกเดินทางต่อตอนประมาณ 11 โมงกว่า ๆ กะว่าจะไปหาอาหารกลางวันหนักท้องซักมื้อที่ดอนหอยหลอด จึงออกเดินทางมุ่งหน้าต่อไป




เราเดินทางมุ่งหน้าไปทางถนนเส้นหลัก หมายเลข 35 (เส้นที่จะไปพระราม 2) จากนั้นให้ยูเทินกลับไปทางเพชรบุรี ก่อนถึงหลักกิโลเมตรที่ 62 จะมีป้ายบอกไปดอนหอยหลอดอยู่ทางด้านซ้ายมือ ขับเข้ามาประมาณซัก 7 กิโลเมตร ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งเป็นที่เคารพของผู้คนที่นี่ และนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาจะแวะมาสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล ดอนหอยหลอด เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะแวะมาซื้อของทะเล และของฝากที่นี่ เนื่องจากมีร้านค้าตั้งอยู่เรียงรายสองข้างทางริมถนน นักท่องเที่ยวสามารถซื้ออาหารมานั่งทานบริเวณริมทะเลติดศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ๋ และที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านอาหารทะเลมากมาย ส่วนพวกเราก็ขับรถวนหาร้านอาหารทะเลบรรยากาศดี ๆ ซักร้าน เพื่อสัมผัสกับรสชาติอาหารทะเลและบรรยากาศสบาย ๆ ของสายลมทะเลอ่าวไทย


เราขับเลยดอนหอยหอลดมาประมาณ 1 กิโลกว่า ๆ โดยก่อนทางเข้าร้านอาหารจะมีคนมาเรียกนักท่องเที่ยวมากมายที่หน้าร้าน ไม่ว่าจะเป็นการเต้น หรือแต่งตัวเป็นลิง หรือทำท่าทางให้นักท่องเที่ยวสะดุดตาและเข้าไปใช้บริการร้านอาหาร ผมลายตามากเพราะมีคนมาเรียกข้างทางเยอะมาเลยขับมาร้านเกือบท้าย ๆ ของดอนหอยหลอดเห็นว่าไม่มีคนก็ลองเข้าไปใช้บริการ ชื่อว่าร้านกนกพร







เราเลี้ยวจากถนนเข้ามาเป็นทางลูกรังประมาณ 500 เมตร ก็ถึงหน้าร้านอาหารกนกพร ซึ่งมีแขกนั่งทานอาหาร 1 โต๊ะ เราเห็นว่าบรรยากาศดีจึงเข้าไปใช้บริการ เราสั่งอาหารทะเลมาประมาณ 4 อย่าง ได้แก่ ปูผัดพริกไทยดำ กุ้งอบเกลือ ยำรวมมิตรทะเล และปลากระพงนึ่งมะนาว ถือว่ารสชาติได้ ใช้ได้ครับ บรรยากาศเงียบสงบดี แต่ยุงเยอะไปนิดนึง แต่เจ้าของร้านก็จุดธูปไล่ยุงให้เลยนั่งกันนานไปเลย เรานั่งทานอาหารชมบรรยากาศริมทะเลอ่าวไทย บนเรือนร้านอาหารกนกพร อย่างเต็มที่ ก็เรียกมาเก็บเงิน ราคาอาหารก็โอเคนะ แต่ว่าลดราคาลงกว่านี้คงมีแขกเยอะกว่านี้ ผมคิดในใจเองคับ จากนั้นก็เดินทงไปไปยังตลาดน้ำอัมพวา





เราย้อนกลับไปทางตัวเมืองสมุทรสงคราม และมุ่งหน้าไปทางตลาดน้ำอัมพวา ที่นี่หาที่จอดรถยากคับ เพราะคนเยอะแต่ก็มีให้เข้าไปจอดบริเวณโรงเรียนก็ดีนะ ไกลหน่อย แต่ก็ดีจะได้ช่วยบริจาคเงินเพื่อเป็นค่าบำรุงสถานที่สถานศึกษา เราเดินออกจากลานจอดรถประมาณ 600 เมตร ก็เข้าไปเที่ยวตลาดอัมพวา ตลาดน้ำอัมพวาจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันศุกร์ ถึงวันอาทิตย์ ที่นี่จะคึกคักตลอด โดยเฉพาะยามเย็นคนจะยิ่งเยอะมากขึ้น เพราะของกินตลาดน้ำอัมพวาขึ้นชื่อมากยิ่งได้ไปกินอาหารบริเวณท่าเรือด้วยยิ่งดี ได้บรรยากาศ นั่งเก้าอี้ยอง ๆ กินปลาหมึกตัวโต ๆ จิ้มกับน้ำจิ้มรสเด็ดรับรองไม่ผิดหวัง พวกเราเดินชมบรรยากาศภายในตลาดน้ำอัมพวาจนเมื่อยขา แวะซื้อของฝากเสร็จก็เดินทางต่อ ทริปนี้ไม่ได้แวะชมหิงห้อยที่อัมพวาครับ ก็ว่าจะไปดูวิวสวย ๆ บนยอดเขาแก่นจันทร์ยามเย็นที่ราชบุรีต่อ












ทริปนี้พวกเราวางแผนการเดินทางไม่ค่อยดีคับ เพราะต้องย้อนไปมาสองครั้งด้วยกันจึงทำให้เสียเวลาไปมาก แต่ก็ดีคับได้เป็นประสบการในการเดินทางในครั้งหน้า และควรเดินทางเป็นเส้นวงกลมคับ อย่าวนไปวนมาเป็นดีที่สุด เราออกเดินทางจากตลาดน้ำอัมพวา มุ่งหน้าสูตัวเมืองราชบุรี โดยใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 1ชั่วโมงก็มาทางขึ้นเขาแก่นจันทร์ ทางขึ้นเขาแก่นจันทร์มีความลาดชัน และโค้งไปมา การขับรถขึ้นไปเย็น ๆ ไม่ควรขับเราคับ เพราะมีคนมากออกกำลังกายมาก โดยเฉพาะคนที่ปั่นจักรยานเสือภูเขาจะปั่นขึ้นลงเขาด้วยความเร็ว นักท่องเที่ยวที่ใช้รถยนต์ขึ้นไปควรขับรถด้วยความระมัดระวัง 




บนยอดเขาแก่นจันทร์นี้ เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสี่มุมเมือง ซึ่งเป็น 1 ใน 4 องค์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น แล้วพระราชทานไปประดิษฐานไว้ ณ เมืองต่าง ๆ สี่เมืองได้แก่ ราชบุรี ลำปาง สระบุรี และพัทลุง ส่วนการขึ้นไปเที่ยวชมนั้นมีเวลาเปิดปิดการขึ้นลงเขาแก่นจันทร์นคับ เปิด 07.00 น. ปิด 18.00 น. นะคับ แต่วิวบนเขาแก่นจันทร์สวยมากคับ มองเห็นเมืองราชบุรีทั้งเมืองที่เป็นบ้านเรือน ตึก รวมถึงถนนหนทาง ทุ่งนา ธรรมชาติ ภูเขา ด้านบนเงียบสงบเย็นดีคับ ก่อนกลับแวะนมัสการการพระพุทธรูปสี่มุมเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนกลับบ้านคับ จะได้โชคดี ทริปนี้วันเดียวแต่เที่ยวคุ้มคับ สนุกไม่แพ้กับการไปเที่ยว ๆ หลาย ๆ วัน มิหนำซ้ำไม่ไกลด้วย วันนี้อันแน่ออนทัวร์ลาไปก่อนคับ เอาไว้เจอกับในทริปหน้าคับ สวัสดีคับ กับอันแน่ออนทัวร์

DotE
LastUpdate ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2554 - 01:06:40 น.
 
Information ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของระบบไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม กรุณาแจ้งที่ Email annop_nanya@hotmail.com เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
Copyright © 2009 www.annaontour.com. All rights reserved.
Untitled Document
สถิติผู้เข้าชม ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 14 ราย