เที่ยวหัวใจใหม่ ที่เมืองขอนแก่นนครใหญ่ ภาคอีสาน
การเดินทางครั้งใหม่กับเส้นทางที่คุ้นเคย จังหวัดขอนแก่นนครใหญ่ เราเดินทางออกจาก กทม. ในช่วงเวลาประมาณตี 2 เพื่อที่จะได้ไปเช้าตรู่ที่จังหวัดขอนแก่น โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2 ผ่าน จังหวัดสระบุรี จังหวัดโคราช เข้าสู่ตัวจังหวัดขอนแก่น มุ่งหน้าสู่อำเภอน้ำพอง และกิจกรรมของเราก็เริ่มต้นที่ หมู่บ้านงูจงอาง การเดินทางจากจังหวัดขอนแก่นเข้าสู่ "หมู่บ้านงูจงอาง" ประมาณ 60 กิโลเมตร เดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 2 ไปทางอำเภอน้ำพอง ซึ่งห่างจากตัวจังหวัดขอนแก่นประมาณ 36 กิโลเมตร จากนั้นจะมีป้ายบอกทางไปหมู่บ้านงูจงอาง ให้กลับรถมุ่งหน้าไปทางเส้นทางหมายเลข 2039 แล้วมุ่งหน้าไปอีก 16 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร เข้าสู่บ้านโคกสง่า ต.ทรายมูล อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เราเข้าไปชมงู ภายในสวนสัตว์ขนาดย่อม ๆ ก็พบกับงูชนิดต่าง ๆ อาทิ งูเห่า งูปล้องทอง งูเหลือม นอกจากนี้ยังมี พังพอน ลิง จระเข้ เป็นต้น ซึ่งสัตว์เหล่านี้ถูกเลี้ยงไว้ในกรงเหล็ก ไม่ให้ออกมาเพ่นพ่าน และผู้ที่จะมาเที่ยวจะได้ไม่เป็นอันตราย ภายในบริเวณสวนสัตว์นี้ยังมีบ่อน้ำสำหรับผู้ที่จะมาเลี้ยงปลา เสร็จสิ้นจากการเข้าชมงู ประมาณ 1 ชั่วโมง โฆษกก็ประกาศว่ากำลังจะเริ่มการแสดงงูในรอบต่อไปแล้ว พวกเราก็ไปหาที่นั่งจับจองสำหรับการชมของลูกหลานบ้านโคกสง่า ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของงู โดยจะเป็นการแสดงการฟ้อนรำงู มวยงู เป็นการต่อสู่ระหว่างงูกับคน ตั้งแต่รุ่นใหญ่ถึงรุ่นจูเนียร์เลย ตื่นเต้นมาก และก็กลัวงูจะชูคอ และพุ่งเข้ามาหา เพราะว่าบนเวทีการแสดงไม่มีอะไรกั้นเลย แต่ก็สนุกและตื่นเต้นดี เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง โดยการชมการแสดงไม่ต้องเสียค่าเข้าชม เพียงแต่ช่วยเหลือหรือบริจาคเงินเพื่อสนับสนุน (แล้วแต่จะให้) หลังจากการชมการแสดงเสร็จ พวกเราก็ออกเดินมาหาซื้อของฝาก (เดี๋ยวจะว่ามาไม่ถึง "หมู่บ้านงูจงอาง")
 
หมู่บ้านงูจงอาง
 
ร้านของฝาก และชมการแสดงงูจงอาง













หลังจากออกมาจากหมู่บ้านงูจงอาง ก็แวะรับประทานอาหารเที่ยง และซื้อไก่ย่างบริเวณอำเภอน้ำพอง บริเวณนี้จะมีไก่ย่างขายเยอะมาก และที่สำคัญนะอร่อยด้วยขอบอก ไก่ย่างร้อน ๆ ข้าวเหียวร้อน ๆ นุ่ม ๆ อือ ฮื้อ อร่อยมาก มาก สำหรับอาหารกลางมื้อนี้

จากหมู่บ้านงูจงอาง เราก็มุ่งหน้าสู่เขื่อนอุบลรัตน์ เดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 2 ย้อนกลับไปทางขอนแก่น ประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะพบปากทางเข้าสู่เขื่อนอุบลรัตน์ประมาณ 25 กิโลเมตร ถึงที่เขื่อนอุบลรัตน์ 13.00 น. เขื่อนอุบลรัตน์ เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน สร้างกั้นลำน้ำพอง ตรงข้ามวัดพระพุทธบาทภูพานคำ เราขึ้นไปบริเวณสันเขื่อน เพื่อชมทิวทัศน์อันสวยงาม และก็จริงแหล่ะสวยงามมากจริง จริง ท้องฟ้าสดใส เสียงคลื่นน้ำกระทบกับสายลมฟังแล้วอยากนั่งหลับตาฟังเสียงคลื่นน้ำที่กระทบกับสายลมอยู่อย่างงี้จังเลย กับช่วงเวลาที่จะเริ่มเย็นและเราได้ถ่ายภาพกันเยอะมาก และที่สำคัญนะที่เขื่อนอุบลรัตน์มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้วย อาทิ ร้านอาหาร สำหรับบริการนักท่องเที่ยว แบบว่าเดินชมวิวทิวทัศน์จนรู้สึกว่าท้องเริ่มร้องก็เดินเข้าร้านอาหารได้เลย นั่งทานไปชมวิวไป แหมช่างมีความสุขจริง จริง

ชมวิวบนสันเขื่อนอุบลรัตน์





ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยไปเยอะ และเราจึงลงจากเขื่อนอุบลรัตน์ แต่เดี๋ยวก่อน ขอแวะกราบไว้สักการะพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาว ที่ตั้งเด่นเป็นสง่านามว่า "พระพุทธอุตตรมหามงคล" และด้านล่างฐานจะเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งประชาชนในละแวดนั้นและใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ก่อนจะขึ้นไปกราบไวห้สักการะก็จะมีให้เราเลือกระหว่างเดินขึ้นบันไดนาค ประมาณ 1,049 ขั้น ขึ้นไป หรือจะขับรถขึ้นไปก็ได้ แต่เผอิญว่าทีมงานเข้มแข็งน่ะ ตกลงกันว่าอยากเดินขึ้นบันได เอ๊ะจะได้บุญเยอะมั้ยเนี่ย (สาธุ) เสร็จภารกิจกันเรียบร้อย เราก็เดินลงบันไดและมุ่งหน้าเข้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่ 3 ที่มีชื่อว่า บางแสน 2
 
รอยพระพุทธบาทภูพานคำ








ชาวขอนแก่นไม่ต้องไปถึงชลบุรีแล้ว เพราะว่าที่นี่ก็มีทะเล (แต่เป็นทะเลน้ำจืดนะ ขอบอกสวยมั๊ก มั๊ก) จากเชื่อนอุบลรัตน์เรามุ่งหน้าสู่บางแสน 2 ผ่านตลาดสดอุบลรัตน์ ไปทางถนนคนพองหนีบ เป็นเส้นทางหลวงชนบท ขก 4063 เข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร ตอนนี้ก็เวลา 16.00 น. แล้ว เลยนั่งรถชมวิวชายหาดริมทะเลสาบน้ำจืดเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ ทะเลบางแสน 2 ตั้งอยู่บ้านหินเพิง ต.ท่าเรือ จ.ขอนแก่น ไม่อยากจะเชื่อว่าจะสวยสะดุดตามาก เพราะที่บางแสน 2 จะมีแพเปิดเป็นร้านอาหารให้ลูกค้าเข้าไปนั่งชมบรรยากาศ และทานอาหารไปด้วย เราจึงพากันลงแพชื่อว่า " แพศรีทอง" และก็รู้สึกว่าท้องเริ่มร้องมากแล้ว จึงสั่งอาหารมื้อเย็นทานกันที่นี่เลย อาหารที่นี่ก็จะเป็นปลาแม่น้ำ กุ้งแม่น้ำ อาหารตามสั่ง ลาบ น้ำตก ส้มตำ ข้าวเหนียว อาหารที่นี่สดนะคะ และที่สำคัญได้เยอะด้วย ราคาก็ไม่แพง เหมาะสำหรับพาครอบครัวมาเที่ยวแลยทีเดียว แถมที่นี่ยังมีนั่งเล่นในแพได้ประมาณชั่วโมงครั้งก็ได้เวลา 17.30 น. จึงเตรียมเดินทางกลับ โดยใช้เส้นทางที่ผ่านไปทางอุทยานแห่งชาติน้ำพอง
 
บางแสน 2 และร้านอาหารริมหาดบางแสน 2






ระหว่างทางที่เราขับรถไปบนเส้นทงหลวงชนบท ขก 4063 ก็สัมผัสกับบรรยากาศอันบริสุทธ์ ลัดเลาะไปตามเขื่อนอุบลรัตน์ สลับกับแนวเขาที่มีต้นไม้ปกคลุมหนาแน่น บางจุดเป็นดินที่ยุบตัวลงไปเหมือนละลุ เราขับรถชมวิวระหว่างแสงแดดกำลังจะลับขอบฟ้าไปเรื่อย ๆ ก็พบกับทีทำการอุทยานแห่งชาติน้ำพอง ประมาณ หลักกิโลเมตรที่ 19-20 แวะถ่ายภาพอุทยานหน่อยก็ขับมาเรื่อย ๆ จึงไปสะดุดตาตรงบริเวณทะเลสาบจุดหนึ่ง พระอาทิตย์เริ่มจะตกลงแล้ว นกกำลังจะบินกลับรัง เรือประมงเริ่มออกหาปลา เสียงจิ้งหรีดร้องไม่ขาด สายน้ำนิ่งมาก เหมือนทุกอย่างกำลังจะหลับไหล ช่างเป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจมาก เรายืนมองพระอาทิตย์จนลับขอบฟ้าไป จึงรีบเดินทางกลับ เพราะเส้นทางนี้เวลามืดแล้วจะมองเห็นทางลำบาก เพราะไม่มีไฟฟ้าระหว่างทาง และบ้านเรือนในบริเวณนี้ก็มีไม่มาก เวลามืดแล้วจะเงียบสนิท
 
วิวสวย ๆ บริเวณเส้นทางเดินทางไปอุทยานแห่งชาติน้ำพอง






การเดินทางครั้งนี้มีความสุขมาก เพราะรู้สึกว่าหัวใจตัวเองกำลังจะหยุดนิ่งเหมือนกับทะเลสาบบางแสน 2 และในขณะเดียวกันหัวใจก็ลุกขึ้นเต้นแรง ลุ้นระทึกเมื่อได้เข้าชมการแสดงในหมู่บ้านงูจงอาง แต่ที่เหนื่อยที่สุดก็คือเดินขึ้นบันไดนาค 1,049 ขั้น เพื่อไปกราบไหว้สักการะพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาว ที่รอยพระพุทธบาทภูพานคำ แต่ว่าได้บุญเยอะแน่เลยก็รู้สึกหายเหนื่อย ทีมงานอันแน่ออนทัวร์ต้องเดินทางกลับแล้ว เอ่ยคำอำลาว่า "เจอกันใหม่ทริปหน้าเด้อ" กับ อันแน่ "แก้มบุ๋ม"