"อันแน่ออนทัวร์ กิน เที่ยว นอน ออนไลน์" จัดทริปการเดินทางช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ถึงว่าจะเป็นช่วงที่เข้าหน้ามรสุมของทะเลแล้วก็ตาม แต่ทีมงาน พวกเราไม่รู้จักคำว่าหยุดอยู่กับที่ ต้องก้าวต่อไปข้างหน้าอะไร ๆ ก็ไม่หวั่น จึงออกเดินทางลงใต้เยือนดินแดนไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ บนเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่จังหวัดภูเก็ต เราออกเดินทางกันเวลาเที่ยงคืน ไปถึงจังหวัดชุมพรก็ประมาณ หกโมงเช้า จึงแวะล้างหน้า แปรงฟัน ทำภาระกิจส่วนตัวเสร็จ ก็พากันออกเดินทางกันต่อ
เวลาประมาณ 12.00 น. ถึงจังหวัดพังงาท้องก็เเริ่มมร้องแล้วซิ เหลือบไปเห็นร้านอาหารส้มตำยกครก ก่อนเข้าเมืองพังงาเลยวนกลับไปนิดหนึ่งแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารส้มตำยกครกนี้ แบบว่าส้มตำที่เสริฟมาพร้อมครกเลย แปลกใช่มะ ที่นี่เค้ามีเมนูแนะนำก็คือ ส้มตำทะเลหมี่กอรบ ลาบเกี๊ยวกุ้ง และอาหารตามสั่งมากมาย รวมถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ กาแฟสด ส่วนเวลาเปิดปิด ก็ตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. รสชาติอาหารที่นี่แซ่บหลาย บรรยากาศดีติดคลองพังงา นั่งกินไปด้วยชมวิวทิวทัศน์ไปด้วยมีความสุขหลาย เฮ่ออิ่มแล้ว เดินทางต่อกันดีกว่า
นี่ก็เวลา 14.30 น. แล้ว ก่อนทจะเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตก็มาสะดุดตาจุดชมวิว 360 องศา กะว่าจะไปดูวิวซะหน่อยแต่ถ้านบนเป็นร้านอาหารร้านกาแฟ สไตล์โมเดริน เปิดตั้งแต่เวลา 08.00 - 20.00 น. มีกาแฟหอมกรุ่น ทานกับขนมเค้กหลากหลายสไตล์ อาทิ สตรอเบอร์รี่ชีดเค้ก คัตตาสเค้ก หรือจะเป็นอาหารตามสั่งก็มี แต่ที่สำคัญเห็นวิวสวย ๆ จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวเทือกเขา หรือทะเลฝั่งอันดามัน สวยสุด ๆ ไปเลย ด้านบนลมเย็นมีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูป ใครสนใจก็มาตามทางหลวงหมายเลข 402 หลักกิโลเมตรที่ 4 มีป้ายบอกตัวโต ๆ ด้านซ้ายมือ
เราเดินทางออกจากจุดชมวิว 360 องศา ก็ออกเดินทางไปยังที่พัก เย็นนี้เราจะพักกันที่โรงแรมไอบิส อยู่บริเวณหาดกะตะ ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของเกาะภูเก็ต อัตราค่าที่พักราคา 1,000 บาท ต่อคืน พร้อมอาหารเช้า มีสระว่ายน้ำ ห้องพักสะอาด คืนนี้เราจะนอนหลับพักผ่อนกันที่นี่แหล่ะ ว่าแล้วก็เข้าห้องพักอาบน้ำอาบท่าให้เย็นสบาย แล้วเก็บแรงไว้เดินทางในวันรุ่งขึ้นต่อ
เช้าวันนี้อากาศยังครึ้มอยู่เมฆปกคลุมเหมือนน้ำ แต่เราก็ยังเตรียมตัวเดินทางกันต่อ หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรม พวกเราก็มุ่งหน้าสู่หาดป่าตอง แต่เสียดายฝนตก ตก หยุด หยุด ถ่ายภาพออกมาจะดูท้องฟ้าไม่ค่อยสดใสเท่าไร แต่ยังไงที่นี่ก็ทะเลสวย นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ยังหนาแน่นที่หาดป่าตองนอกจากจะได้เที่ยวทะเล ยังมีแหล่งช้อปปิ้งตลอดแนวหาด มีสินค้าหลากหลายนานาชนิด มีร้านอาหาร แพ็คเก็จทัวร์ สปา มีโรงแรมที่พักมากมายทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ และที่สำคัญมีแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีสำหรับนักท่องเที่ยว ช่วงเวลาตอนกลางคืนบรรยากาศคึกคักมากขอบอก
หลังจากเดินเที่ยวชมบริเวณหาดป่าตองอย่างเต็มที่แล้ว เรามาต่อกันที่หาดกะหลิมเพราะมีแนวหาดติดกับหาดป่าตอง หาดกะหลิมเป็นหาดเล็ก ๆ มีโขดหินและแนวปะการังและมีสถานที่พักริมหาด น้ำทะเลที่หาดกะหลิมจะมีสีฟ้าใสน่าเล่นแต่น้ำจะลึกและเป็นโขดหิน เวลาน้ำกระทบโขดหินน้ำทะเลจะกระเซ็นเป็นละอองเต็มไปหมดสวยมาก แต่ที่หาดกะหลิมไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำ ได้เพียงแต่แวะถ่ายภาพความสวยงามเก็บไว้
ตอนนี้ก็เวลาประมาณ 12.30 น. แล้ว แต่กลางวันนี้ไม่หิวเดี๋ยวเก็บไปรวบยอดตอนเย็นดีกว่า จึงขับรถออกมาเรื่อย ๆได้ประมาณ 3 กิโลเมตร จึงแวะชมประติมากรรมอนุสรณ์สถานสึนามิ ออกแบบโดยศิลปินชาวสวีเดน ลาร์ส อิงกลนด์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้รำลึกถึงเหตุภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณที่เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิ บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพรเกียรติ 100 ปี ตั้งอยู่ที่หาดกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ใครที่มาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตก็อย่าลืมแวะมาชมประติมากรรมอันงดงามแห่งนี้นะคะ ว่าแล้วก็ขอเก็บภาพมาฝากเพื่อน เพื่อน สักหน่อยดีกว่า
เราขับรถชมบรรยากาศกันมาเรื่อย เรื่อย ก็มาสะดุดตาป้ายน้ำตกโตนต้นไทร จึงแวะเข้าขมซะหน่อย จะได้เก็บภาพสวย สวย มาฝากเพื่อน ๆ กัน น้ำตกโตนต้นไทรตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติโตนต้นไทร อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติพระแถว เป็นน้ำตกขนาดเล็ก บริเวณน้ำตกเป็นสวนรุกชาติ มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมไปหมด เหมาะสำหรับศึกษาธรรมชาติดีค่ะ น้ำตกโตนต้นไทรเป็นแหล่งกักเก็บน้ำธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะภูเก็ต ด้านล่างเป็นแหล่งกักเก็บน้ำขนาดเล็ก สามารถลงเล่นน้ำได้ เราก็เลยพากันชมความสวยงามของน้ำตกกันสักพักใหญ่ ก่อนจะเดินทางไปกันต่อ
เวลาปาเข้าไปเกือบ 3 โมงเย็นแล้ว เราเดินทางออกจากน้ำตกโตนต้นไทร แล้วไปต่อที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ (หาดในยาง) ว้าว ช่างเป็นหาดที่เงียบสงบจัง น้ำทะเลสีฟ้าใส ร่มเย็นเพราะปกคลุมไปด้วยทิวสนตลอดชายฝั่ง เพียงแค่ยืนหลับตาฟังเสียงคลื่นและลมพัดเข้าหาตัว ช่างมีความสุขเหลือเกิน ริมหาดไม่มีร้านค้าร้านอาหาร แต่มีเพียงรถเข็นจากชาวบ้านที่นำอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ เครื่องดื่มมาจำหน่าย เราสั่งกาแฟเย็นมานั่งกินกันริมหาดว้าว มันเป็นความสุขเล็ก ๆ แต่ก็มีความสุขได้นานจนกาแฟหมดถุง
วันนี้เย็นมากเรา เรากะว่าจะไปปิดทริปที่เขารัง เพื่อดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ว่ากันว่าเขารังนี้เดิมชาวภูเก็ตเรียกว่าเขาหลัง และตัวเมืองด้านสะพานหินถือว่าเป็นหน้าบ้าน รถยนต์สามารถขึ้นไปจนถึงยอดเขารังได้ ปัจจุบันเทศบาลจัดเป็นสวนสุขภาพและสวนสาธารณะไว้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และชมทิวทัศน์ของเมืองภูเก็ต ด้านบนเขารังมีร้านอาหารบรรยากาศดี ปัจจุบันเป็นสถานที่จุดชมวิวของเมืองภูเก็ต จึงทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แวะเวียนมาดูแสงสียามค่ำคืนของเมืองภูเก็ต
ึก่อนเราจะเดินทางกลับโรงแรมไอบิส หาดกะตะ เราก็วนไปปาดป่าตองเพื่อชมสีสันยามค่ำคืนก่อนที่หาดป่าตองพลาซ่า และไปสะดุดตามที่ร้านขนมจีนหน้าหาดกะหลิม ที่นี่คนเยอะมากส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านเข้ามาทานขนมจีน เราจึงแวะทานขนมจีนปักษ์ใต้ที่ร้านนี้ก่อน เพราะมันเย้ายวนน้ำลายของพวกเราจริง ๆ เพราะเครื่องเคียงที่มีผักเต็มไปหมด รวมถึงผักต้มกะทิ ขนมจีนน้ำกะทิ ขนมจีนไตปลา เราจึงอิ่มกันที่นี่ก่อนกลับโรงแรม อ้อลืมบอกไปร้านขนมจีนร้านนี้ เปิดตั้งแต่ 17.00 น. - 02.00 น. ก็มีเวลามากโขสำหรับคนที่จะมากินกัน
เช้าวันนี้อากาศแจ่มใส แสงแดดอ่อน อ่อน ชวนให้ไปเดินชายทะเล ว่าแล้วก็พากันลงเดินเล่นชายหาดกะตะเพราะไม่ไกลจากที่พัก หาดกะตะนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของความขาวสะอาด ความละเอียดของเม็ดทราย น้ำทะเลสีฟ้าครามใส ทำให้อยากไปนั่งพักบริเวณริมหาดกะตะ เรานั่งเรือจากโรงแรมไอบิส โดยรถโรงแรมจะไปจอดส่งแขกบริเวณริมหาดกะตะ นักท่องเที่ยวต้องเสียค่าที่นั่งคนละ 100 บาท ส่วนเครื่องดื่มก็ราคาชาวต่างชาติไม่ว่าจะเป็นคนไทย หลังจากไปถึงหาดกะตะก็เห็นชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะมาชอบอาบแดด และเล่นกระดานโต้คลื่นกันเป็นจำนวนมาก ส่วนนักท่องเที่ยวคนไทยมองแทบไม่เห็นเลยนอกจากคนที่ให้บริการบริเวณริมชายหาด เรานั่งชายหาดกะตะ และลงเล่นน้ำจนแสบหน้าจวบจนเวลาใกล้เที่ยงก็เดินทางกลับโรงแรมไอบิส เพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อ
เราพากันแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านสะดวกซื้อ จากนั้นก็เดินทางไปต่อไปนมัสการพระใหญ่เขานาคเกิด ไปไหว้ขอพรพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี (พระใหญ่) ยอดเขานาคเกิด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองภูเก็ต บนยอดเขานาคเกิด อำเภอฉลอง โดยเราขับรถมาทางที่จะไปวัดฉลอง (หลวงพ่อแช่ม) จะมีป้ายบอกตลอดทาง ทางขึ้นไปยังเขานาคเกิดค่อนข้างลาดชันพอสมควร รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์สามารถขึ้นไปยังยอดเขานาคเกิดได้ เพราะทางเป็นพื้นคอนกรีต ระหว่างทางสามารถจอดรถถ่ายรูป และชมวิวทิวทัศน์ มีร้านอาหาร ที่พัก ตลอดเส้นทาง จุดชมวิวสามารถมองเห็นหาดราไวย์ หาดกะตะ สวยงามมาก
เราใช้เวลาอยู่บนยอดเขานาคเกิดเกือบทั้งวัน เพราะว่าประทับใจบรรยากาศ วิวทิวทัศน์อันงดงาม ก่อนลงเขานาคเกิดจึงมานั่งสั่งอาหารรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร แอนด์ กอล์ฟ นั่งรับลมชมวิว โดยสั่งอาหารและเครื่องดื่ม เคล้าวิวทะเลจากที่สูงมองเห็นเกาะต่าง ๆ เต็มไปหมดมองไปช่างสวยงามจัง นี่ถ้าใครอยากมานั่งสงบจิตใจ ทำให้จิตใจเยือกเย็นหล่ะก็ อยากให้มานั่งบนนี้กัน เชื่อซิได้ทั้งบุญ อิ่มท้อง และภาพความประทับใจกลับไปแน่นอน 19.30 น. เราเดินทางลงจาก "พระใหญ่" ยอดเขานาคเกิด ขับรถชม "กะรนพลาซ่า" ที่นี่ก็จะมีเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ชุดว่ายน้ำ ร้านอาหารทะเล ของที่ระลึกต่าง ๆ ชาวต่างชาติเยอะมากในยามค่ำคืนยิ่งดึกนักท่องเที่ยวยิ่งออกมาเที่ยวกันเยอะมาก สินค้าก็ขายดีเป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยว เราเดินชมบรรยากาศพักใหญ่ พร้อมเก็บภาพไปเรื่อย เรื่อย แต่เริ่มจะเมื่อยแล้วซิ เลยชวนกันกลับที่พักกันดีกว่าไปพักผ่อนเอาแรงเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเก็บภาพบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในเมืองภูเก็ตมาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันอีก
เช้าวันรุ่งขึ้นเราอิ่มหนำกับอาหารโรงแรมไอบิสแล้วเราก็เดินทางไปยังหาดราไวย์ หาดราไวย์เป็นหาดทรายให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมความสวยงาม ชายหาดมีร่มไม้ปกคลุม แต่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวซักเท่าไรเพราะน้ำทะเลชายหาดไม่ใสเหมือนหาดอื่น ๆ แต่มีแต่เรือประมงลำเล็ก ๆ มาจอดเกือบตลอดริมหาดราไวย์ เราแวะไปชมความสวยงามของทะเลหาดราไวย์ที่สะพานท่าเทียบเรือหาดราไวย์ เห็นท้องทะเลสีฟ้าคราม น้ำทะเลสีฟ้าใส ก็ทำให้รู้สึกว่าเช้านี้คงได้ถ่ายภาพสวย ๆ อีกเพียบ
เราเดินทางจากท่าเรือหาดราไวย์ ไปท่าเรืออ่าวฉลองต่อ เพื่อดูแพ็คเกจนำเที่ยวเกาะต่าง ๆ อาทิ เกาะเฮ เกาะราชา เกาะพีพี เกาะไข่ใน เกาะไข่นอก เป็นต้น นักท่องเที่ยวลงเรือเยอะมาก ส่วนใหญ่แล้วเป็นนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ชาวจีน คนไทยก็มีนิดหน่อย เราเดินชมท่าเรือ และเรือยอช์ท ที่มาจากเต็มหาดฉลองเต็มไปหมด ก่อนที่จะหยิบโบชัวร์แพ็คเกจทัวร์จากบริษัทนำเที่ยวด้านหน้าท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ก็ออกเดินทางต่อไปยังแหลมพรหมเทพ
แหลมพรหมเทพ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รู้จักทั่วโลก ว่าที่นี่เป็นแหล่งชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยแห่งหนึ่ง แต่ช่วงเวลาที่เราไปเป็นช่วงเที่ยงเอง จึงได้แต่ชมทะเล เห็นรีสอร์ทอยู่บริเวณริมเขา ส่วนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเอาไว้โอกาสหน้า
จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังเมืองเก่าภูเก็ต ตั้งอยู่บนถนน ดีบุก กระบี่ ถลาง และ เยาวราช เป็นสถาปัตยกรรมเก่าแบบชิโน-โปรตุกีสถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2446 เนื่องจากการทำเหมืองแร่ เป็นศิลปะวันที่ผสมผสานเอาความเป็นศิลปะตะวันตกและตะวันออกผสมผสานเข้าไว้ด้วยกันโดยชาวจีน เราเดินชมความสวยงามของเมืองเก่าภูเก็ตกันพักใหญ่ ก็เหลือบไปเห็นร้านของฝากที่มีคนแวะเวียนเข้ามากันมากมายที่ร้านของฝากอาตั๊กแก
ร้านของฝากอาตั๊กแก เป็นร้านของฝากขนมพื้นเมืองภูเก็ตมากมาย อาทิ เต้าส้อ พางเปี๊ยะ ขนมพริกไทยดำ ตุ๊กตา หน้าแตก เปี๊ยะไส้จันอับ แกงไตปลา ปลาฉิ่งฉ่าง เปิดขายกันตั้งแต่ 07.00 น. - 19.00 น. ส่วนใครไปไม่ถูกหรือไม่รู้จักเดี๋ยวจะหาว่าไม่แนะนำของดีภูเก็ต ก็โทรไปถามกันได้เลยที่เบอร์ 087-2756926, 076-226255
ก่อนจบทริปนี้พวกเราก็เดินทางต่อไปเก็บภาพสวย ๆ ที่สะพานสารสิน เก็บภาพวิวสวย ๆ ของแม่น้ำที่ล้อมรอบเมืองภูเก็ตไปเป็นที่ระลึก จากนั้นก็โบกมือบ๊าย ๆ เมืองไข่มุกแห่งอันดามัน แล้วไว้เจอกันใหม่กันอันแน่ออนทัวร์
|