Top 10 Most Popular Hip Hop Artists in 2016 Reviews
Top 10 Handsome Hollywood Actors in 2016
Top 10 Richest Doctors in the World in 2016
เที่ยวพม่าเมืองพญาตองซูแบบง่าย ๆ
ทริปนี้ขอเริ่มต้นจากอำเภอสังขละบุรีครับ ส่วนคนที่จะไปสังขละบุรีไม่ยากมุ่งหน้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี ผ่านอำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิ แล้วไปสุดที่อำเภอสังขละบุรี มุ่งหน้าสู่ด่านเจดีย์สามองค์สุดชายแดนสยามพอดี ประมาณ 20 กิโลเมตร


ทริปนี้แนะนำให้เดินทางตั้งแต่เช้าไปทำเรื่องผ่านแดนที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสังขละบุรี ซึ่งเป็นด่านชายแดนชั่วคราว การทำเอกสารก็ง่าย ๆ ไม่ต้องกังวล เพียงแค่ใช้สำเนาบัตรประชาชนคนที่จะเข้าไปเที่ยวยื่นที่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองสังขละบุรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในทั้งไทย แต่จะไปเสียคนละ 30 บาท ที่หน้าด่านฝั่งพม่าและไม่ต้องใช้เอกสารอะไร เพราะที่เมืองพญาตองซูไม่อนุญาตให้ค้างคืนอยู่แล้ว ส่วนการเดินทางเข้าไปเที่ยวนั้นจะต้องเดินทางเข้าไป หรือต้องนั่งมอเตอร์รับจ้างเข้าคน แต่ถ้าหากใครนำรถยนต์ส่วนตัวมาด้วยก็นำเข้าได้เพียงใช้สำเนาทะเบียนรถยื่นที่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองสังขละบุรี โดยเสียค่าธรรมเนียมคนละ 50 บาท ส่วนค่ายานพาหนะฝั่งพม่าไม่เสีย เท่านี้ก็สามารถนำรถยนต์เที่ยวในพม่าในฝั่งเมืองพญาตองซูได้แล้ว

ก่อนผมจะเข้าไปเที่ยวเมืองพญาตองซูในทริปนี้ผมเห็นชาวพม่านำขนมมาขายเลยเข้าไปถามไถ่ แล้วลองชิมดู ชื่อว่าขนมสมุสาหะ ทำมาจากแห้งสาลีห่อมันฝรั่งคลุกกับกะเทียมทอดร้อน ๆ อร่อยดี และขนมถั่วก็เหลืองก็กินได้แต่ผมแนะนำว่าจะกินอะไรลองสังเกตุร้านที่สะอาด ๆ นะครับ ส่วนร้านนี้ผมมาสังขละทีไรผมเจอแกทุกครั้งแหละ เด็กชาวไทยฝั่งด่านเจดีย์สามองค์จะแวะรุมซื้อร้านแกเป็นประจำ




ผมยังไม่เข้าถึงเมืองพญาตองซูก็เหมือนเข้าไปแล้วครึ่งตัวเพราะได้กินขนมพม่า เห็นคนพม่าเข้ามาทำงานในฝั่งด่านเจดีย์สามองค์ก็รับรู้ได้ถึงวิถีชีวิตของชาวพม่าได้เลย จากนั้นก็ขับรถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองสังขละบุรี และขับรถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองพม่าที่ด่านพญาตองซูนับคนจ่ายเงินคนละ 30 บาท แล้วก็ขับรถเข้าไปได้เลย แต่ว่าขับคนละเลนกับฝั่งไทยครับ เราขับเลนซ้ายพม่าขับเลนขวานะ ระวัง ๆ หน่อย มอเตอร์ไซด์ก็เยอะแต่ไม่มากเท่าไร ส่วนรถยนต์จะเป็นรถฝั่งไทยหรือคนเมืองกาญจนบุรีขับไปเที่ยวหรือเข้าไปทำงานกัน
เมืองพญาตองซูเป็นเมืองเล็ก ๆ มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ผู้คนส่วนใหญ่รู้ภาษาไทยพอพูดได้ การกินการอยู่ของเขาไม่เหมือนกับประเทศไทยซักเท่าไรส่วนใหญ่ชอบกินหมากเข้าไปในเมืองพญาตองซูจะเห็นร้านขายหมากริมข้างทางเกือบตลอด
ผมเข้าไปพม่าอยากเข้าไปวัดเสาร้อยต้นก่อนก่อนเข้ามาก็ถามเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยแล้ว ให้เจอสี่แยกแรกเลี้ยวขวาขับไป 800 เมตร ให้เลี้ยวขวา ไปอีก 300 เมตร แล้วเลี้ยวซ้ายจะเจอวัดเสาร้อยต้น ปรากฏว่าเลยครับ เพราะสี่แยกบ้านเขาผมนึกว่าเป็นสี่แยกใหญ่ เป็นถนนเล็กทางทางลูกลังเหมือนวิ่งเข้าซอยหมู่บ้านเลยไม่ได้เข้าไปผ่านไปตั้งหลายแยกเลยไปจนจะออกเมือง เลยขับชมวิถีชีวิตชาวพม่าไปก่อนเลย ดูบ้านช่องการค้าขายตามถนนในเมืองพญาตองซู ส่วนจะไปวัดเสาร้อยต้นถามทางไปเรื่อย ๆ ก่อน หรือไปเริ่มต้นใหม่อีกที
ถามไปถามมาวิ่งเข้าไปทางถนนเส้นในทางจะไปวัดเสาร้อยต้น เส้นทางในเมืองพญาตองซูทะลุกันตลอดทุกเส้นไปก็ไม่ต้องกลัวจะมีซอยตัน ก็เผลอไปเจอกร้านกาแฟ ร้านอาหาร ติดริมอ่างเก็บน้ำในเมืองพญาตองซู บรรยากาศดีเลยแวะเข้าไปสั่งกาแฟ ถามคนพม่าในร้านว่าอ่างเก็บน้ำเขาเรียกว่าอะไร เขาบอกว่าถ้ามาให้เรียกว่าทะเลสาบนกยูง เป็นสวนสาธารณะในเมืองพญาตองซู บรรยากาศดีมาเห็นภูเขามีหมอกพาดผ่าน ระหว่างนั่งรอกาแฟก็เห็นชาวพม่าเอากระป๋องใส่หัวเดินขายของไปมา แต่ผมฟังไม่ออกเพราะเขาขายอะไรกัน




ผมนั่งชมบรรยากาศ ถ่ายรูปไปมา เดินไปเที่ยวตามชาวบ้านประมาณ 30 นาทีก็มานั่งทานกาแฟที่ร้าน จิบกาแฟหมดแก้วก็ถามทางไปวัดเสาร้อยต้น เขาบอกว่าไม่ไกลจากร้านแกแฟเท่าไร แค่ข้ามถนนไปแยกเดียวก็เห็นป้ายวัดเสาร้อยต้นเป็นภาษาไทยแล้ว ผมขับเข้ามาตามทางที่เขาบอกก็เห็นป้ายวัดเสาร้อยต้น และเข้าไปวัดเสารร้อยต้นทันที
วัดเสาร้อยต้น เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะสร้างไว้ มีที่มาของวัดเสาร้อยต้นก็เนื่องจากมีการนำเสาไม้มาก่อสร้างในศาลาจำนวน 115 ต้น มีด้วยกันทั้งหมด 2 ชั้น ภายในศาลาโอ่งโถงกว้างมาก มีสิ่งศักดิ์สิทธิภายในวัดด้านในสุดของศาลา ช่วงเวลาเทศกาลงานบุญจะมีพุทธศาสนิกชนเข้ามาร่วมทำบุญภายในวัดเป็นจำนวนมาก จึงทำให้วัดนี้เป็นที่รู้จักทั้งชาวพม่า และชาวไทย รวมถึงชาวมอญ ผมเข้าไปในวัดเสาร้อยต้นก็เจอกับเด็กวัดที่ทำหน้าเป็นมัคคุเทศก์พาเดินชมภายในวัด และพาไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเสาร้อยต้นเราใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็เดินทางออกจาวัดเสาร้อยต้น จุดหมายต่อไปก็คือตลาดเมืองพญาตองซู






ผมวิ่งกลับไปยังเส้นทางหลังแล้วเลี้ยวขวา หากเลี้ยวซ้ายจะกลับไปหน้าด่าน ขับขึ้นไปประมาณ ุ500 เมตร ก็จะพบตลาดเมืองพญาตองซูอยู่ด้านซ้ายมือ หาที่จอดรถบริเวณในตลาดได้เลยมีที่ว่างพอสำหรับจอดรถยนต์ แนะนำว่าอย่าจอดริมถนนอาจไม่ปลอดภัย ตลาดพญาตองซูเป็นตลาดเป็นตลาดไม่ใหญ่มากมีสินค้าจำหน่ายมากมายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของใช้จิปาถะ พืชผักผลไม้ โดยเฉพาะหมาก เนื้อสัตว์อาทิหมู ตุ่น ปลา เนื้อไก่ สินค้าส่วใหญ่มาจากประเทศไทย แต่ถ้าเป็นพวกแป้งเครื่องสำอางของพม่ามีเยอะ ผมเดินรอบ ๆ ตลาดไปเรื่อย ๆ ประมาณ 700 เมตร ก็เห็นผู้คนส่วนใหญ่เป็นคนพม่าทั้งนั้น แต่เท่าที่เห็นคนไทยก็มีมาเป็นหย่อม ๆ เลือกซื้อของฝากเป็นสโล่ง เสื้อผ้า แป้งพม่า หากจะต่อรองราคาสินค้ากับเจ้าของร้านก็พอพูดภาษาไทยได้บ้างพอรู้เรื่อง แต่จะถามลึก ๆ ละเอียดนั้นคนพม่าจะงงกับเรา







ผมเดินวนในตลาดพญาตองซูก็เห็นร้านของกินเหมือนหมูพะโล้ตั้งไฟร้อน ๆ อยู่ในหม้ มีรถเข็นขายหลาย ๆ แต่ก็ไม่สะดุดตา กับร้านที่ผมเห็นผมเลยเข้าไปดูแล้วอยากลองมั่งก็ได้ข้อมูลจากนักท่องเที่ยวแถวนั้นว่าร้านนี้เป็นร้านหมูเสียบร้านแรกในบริเวณย่านนี้ ทำอร่อย สะอาด มีคนพม่าและคนไทยมากินกันเยอะในราคาไม้ละ 1 บาท กิน 10 ไม้แถม 1 ไม้ จะกินปอด ไส้ เนื้อ หู ตับ มัน จมูก บอกเจ้าของล้านได้เขาจะใช้กรรไกคีบแล้วเสียบไม้วางไว้ในหม้อให้เลือก จากนั้นก็นำมาจิ้มกันน้ำจิ้มเป็นซอสมเขือเทศ หรือจะเป็นน้ำจิ้มเหมือนน้ำจิ้มสุกี้รสชาติเปรี้ยว ๆ ก็อร่อยดี เวลาไปกินจะมีถ้วย 1 ใบ เอาไว้ใส่น้ำพะโล้ซดร้อน ๆ คนไทยแถวนั้นจะเรียกหมูเสียบ แต่ภาษาพม่าจะเรียกกั้วต่าดู้ทู ทริปนี้ผมอิ่มกับอาหารพม่าไปครึ่งวัน จากนั้นก็เดินทางออกจากเมืองพญาตองซูประมาณเที่ยง ถือว่าทริปนี้เป็นทริปง่าย ๆ สบาย ๆ เข้าถึงวิถีชาวพม่าได้เป็นอย่างดีที่เมืองพญาตองซู ชายแดนไทยพม่าที่ด่านเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี ที่จังหวัดกาญจนบุรี


 |