เที่ยวเกาะสอง ครั้งแรกก็เป็นแบบนี้แหละ
สำหรับคนที่จะเดินทางไปเที่ยวจังหวัดระนองแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะไปเที่ยวตามเกาะแก่งในทะเลฝั่งอันดามัน ซึ่งจังหวัดระนองเป็นจัดหวัดแรกของภาคใต้ที่ติดกับทะเลฝั่งอันดามัน แต่ ณ ปัจจุบันนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยว จังหวัดระนองส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติมากมาย ความเจริญก็เข้ามา เมื่อก่อนที่ผมได้เดินทางมาระนองที่พักยากมาก กลางคืนก็มืด แต่ ณ ปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ระนองน่าเที่ยวจริง ๆ ทริปนี้อันแน่ออนทัวร์ตั้งใจไปเกาะพยาม แต่ว่าขอแวะเที่ยวเกาะสองก่อนดีกว่า เพราะจำได้ว่าจะมาจังหวัดระนองหลายครั้ง แต่ไม่ได้ข้ามไปเกาะสองซักกะที เอาเป็นว่าไปแบบงงมันนี่แหละลองดูเป็นข้อมูลสำหรับคนที่ไปเที่ยวเป็นครั้งแรกเหมือนผมก็แล้วกัน
ผมมาถึงระนองในช่วงเวลายามเย็น ก็จึงแวะไปหาข้อมูลสำหรับการเดินทางในช่วงเวลาเช้าของวันพรุ่งนี้ ว่าด่านตรวจคนเข้าเมืองระนองเปิดกี่โมง จะต้องทำเอกสารอะไรบ้าง จะข้ามไปยังไง ที่เกาะสองมีอะไรน่าสนใจหรือน่าเที่ยวมั่ง ยากไหมสำหรับการเดินทาง แต่ที่ผมรู้มาว่าส่วนใหญ่คนที่จะเดินทางมาเกาะสองเนี๊ยะมั๊กจะมาเล่นการพนันในคาสิโน และส่วนใหญ่ก็จะมาต่อพาสปอร์ต หรือวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยว และคนต่างด้าวที่มาทำงานในเมืองไทย
สำหรับค่ำคืนนี้ผมกะว่าจะเที่ยวระนองในช่วงเวลายามเย็นว่าเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่ว่าตอนนี้ต้องไปหาที่พักก่อนดีกว่า แต่ผมมีที่พักในใจแล้วครับเป็นที่พักราคาถูก ห้องพัดลมห้องละ 250 บาท ต่อคืน ห้องแอร์ 450 บาท ต่อคืน มีทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น Wifire พร้อมที่จอดรถ สำหรับคนที่จะเดินทางไปเที่ยวเกาะสอง หรือเกาะพยามก็ได้ ชื่อสตาร์แครปรีสอร์ท ที่พักติดกับท่าเทียบเรือปากน้ำ (ท่าเรือไปเกาะพยาม) เอาเป็นว่าถ้าไปไม่ถูกไม่ยาก เอาเบอร์โทรศัพท์ไปได้เลย โทร. 077-825568, 086-2777833
หลังจากได้ที่พักผมก็ตระเวนเดินทางมาหาของกินในตลาด หรือท้องถนนไปเรื่อย ก็มาสะดุดตากับร้านอาหารตามสั่งที่หน้าตลาดสดเทศบาลระนอง เห็นคนเยอะนักท่องเที่ยวแยะเดินไปมาก็เลยจอดรถแวะซะหาของกินดีกว่า จากนั้นก็ขับรถตระเวนเที่ยวไปเรื่อยดูสถานที่ท่องเที่ยวไปแวะโน่นแวะนี้ไปเรื่อยสำหรับราตรีนี้ เอาเป็นว่าง่วงแล้วค่อยกลับที่พักดีกว่า พรุ่งนี้เจอกัน
ผมตื่นแต่เช้าเก็บข้าวของท ี่รีสอร์ทแล้วจึงเดินทางไปถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง ประมาณ 08.30 น. เพื่อหาที่จอดรถยนต์ในปั๊มปตท. รถแน่นมากไม่มีที่จอดเลยรถจอดนิ่ง ๆ ซักพักก็มีคนถามว่าจะจอดรถไหม (เป็นคนเก็บค่าตั๋วนั่นแหละ) ผมบอกใช่แล้ว เขาก็ขยับรถกระบะของเขาอยู่บริเวณหน้าร้านค้าให้เราจอดจากนั้นก็เก็บเราไป 60 บาท ผมรู้ว่าไม่ถึงขนาด 60 บาทหรอก แต่ว่าไม่มีที่จอดเอาแบบสะดวกและปลอดภัยก็ไม่น่าเสียดายเท่าไร
ช่วงจังหวะที่กำลังเดินจะเข้าไปทำเอกสารข้ามแดน ก็มีคนเข้ามามากมายถามว่าผมจะไปเที่ยวหรือไปทำอะไร จะข้ามเรือเหมา 200 บาท เอาไหม ผมยังไม่สนใจไปทำเอกสารก่อนดีกว่า (เดินเข้าไปด่านตรวจคนเข้าเมืองระนองถ้าเป็นคนไทยให้ทำเอกสารทางห้องด้านซ้ายมือ ถ้าเป็นคนต่างชาติให้ทำเอกสารห้องจะอยู่ทางด้านขวามือ) เข้าไปซักพักเจ้าหน้าที่ก็ขอบัตรประชาชนตัวจริงเพื่อทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว คนละ 30 บาท จากนั้นเขาก็ให้เราไปถ่ายเอกสารเองอีก 2 ชุด เพื่อไปยื่นที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองพม่าด้วย หลังจากทำเอกสารเสร็จผมยืนมองเรือว่าลำไหนจะไปได้มั่งก็ยืนงงอยู่แป๊บหนึ่ง ก็มีคนเข้ามาถามอยู่นั่นแหละจะพยายามให้ผมเช่าเรือให้ได้ลำละ 200 บาท ผมก็บอกไปว่าเคยมาแล้วไม่เป็นไร (ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยไป ขอโกหกซักครั้งเถอะเพื่อประโยชน์ของตนเองไม่อยากเสียตังเยอะอะ) ยืนงงซักพักก็มีคนไทยคนหนึ่งเดินบอกเข้ามาบอกว่า ไปเรือโดยสารกับคนต่างชาติก็ได้คนละ 50 บาท รอให้เรือเต็มก็ออกได้เลย (เอ๊ะ หรือเขาคงรู้ว่าเราไม่เคยไปเห็นยืนงงอยู่) ผมนั่งรอผู้โดยสารได้ประมาณ 8 ท่าน เรือก็ออกเดินทาง ที่สำคัญคนขับเรือบอกต้องใส่ชูชีพ ถ้าหากไม่ใส่เจ้าหน้าที่จะไม่ให้ขับเรือผ่านไปจะต้องให้ใส่ครบทุกคนถึงจะผ่านไปได้
ระหว่างเรือออกเดินทางผมก็สังเกตุว่า คนส่วนใหญ่ไม่ใช่นักท่องเที่ยว ส่วนมาเป็นคนต่างด้าวมาต่อพาสปอร์ต หรือไม่ก็ฝรั่งมาทำวีซ่าเหมือนกัน นักท่องเที่ยวอย่างผมเนี๊ยะมีน้อย หรือแทบไม่มีเลยก็ว่าได้สำหรับทริปนี้ ผมนั่งดูวิวเมืองระนองในมุมมองที่ไม่เคยเห็นอะ นั่งบนเรือแล้วดูการใช้ชีวิตของคนระนองริมทะเลอันดามัน และยังเห็นเรือวิ่งไปมาเต็มไปหมดรับส่งคนคนต่างด้าว นี่แหละเกาะสองของจริงสำหรับความคิดผมเพื่อมาต่อพาสปอร์ตนี่เอง เรือวิ่งไปซักพักประมาณ 10 กว่านาทีก็มาถึงด่านตรวจเอกสารจุดแรกฝั่งไทย ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเล คนขับเรือเก็บเอกสารผู้โดยสารทุกคนขึ้นไปบนด่านตรวจเอกสาร ตรงนี้ผมไม่ได้ขึ้นไปเอกงก็ไม่แน่ใจว่าทำอะไรบ้าง แต่ที่รู้ระหว่างรอคนขับเรือมาก็ต้องคอยระวังข้างซ้ายข้างขวากลัวเรือลำอื่นจะมาหนีบมือเรา เพราะเรือหลายลำเข้ามาจอดเทียบท่าเป็นแพเบียดเสียดที่จุดนี้มากมาย เห็นแล้วยดีแปลกสวยไปอีกแบบไม่เคยเห็นอะ ก็มาเห็นที่นี่แหละ ซักพักคนเรือมาก็ขับไปอีกประมาณ 10 กว่านาที ก็ไปถึงด่านตรวจอีกแห่งหนึ่ง คนเรือก็นำเอกสารแผ่นที่สองของเราไปยื่นที่ด่านตรวจของไทยอีกแห่งหนึ่ง เสร็จแล้วเรือกจึงแล่นต่อผ่านไปยังเขาลูกหนึ่งเห็นเจ้าแม่กวนอิมตั้งตระหง่าน ตรงนี้ก็เป็นด่านตรวจของทหารไทยด่านสุดท้ายก่อนเข้าไปเทียบเรือบนเกาะสองฝั่งพม่า
เกาะสอง เป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศพม่า แต่พม่าจะเรียกตามภาษาของเขามีชื่อว่า Kaw Thaung แปลว่า เกาะ มีพื้นที่ดินเกาะแผ่นดินใหญ่ของประเทศพม่า แต่เป็นแหลมยื่นออกมาในทะเลไม่ใช่เกาะ ในใต้สุดของประเทศพม่า ในอดีตพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ของประเทศไทย เมืองนี้มีชื่อว่ามะลิวัน แต่ในช่วงประเทศอังกฤษเข้ามาปกครอง จึงได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น Victoria Point จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2540 สหภาพพม่าจึงเปลี่ยนชื่อเกาะสองมาเป็น Bayintnaung Cape หรือ แหลมบุเรงนองจนกระทั่งปัจจุบัน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง ค้าขาย เกษตรกรรม แต่สิ่งที่ขึ้นชื่อสำหรับคนที่เดินทางมาที่เกาะสองบ่อยครั้งมากที่สุด คือการมาต่อเอกสารการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ หรือการต่อต่อเอกสารของชาวต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย เมื่อเรือจอดแล้วผมก็ขึ้นจากเรือโดยที่ยังไม่รู้ว่าเป้าหมายของผมต้องไปที่สแตมป์เอกสารที่ไหนต่อ แต่ก็เห็นชาวต่างชาติเดินดุ่ม ๆ กันไปทางถนนด้านซ้ายมือ คนต่างด้าวก็ไปด้วยผมว่าเขาน่าจะไปด่านตรวจคนเข้าเมืองพม่า ผมก็เลยเดินตามไปติด ๆ ระหว่างนั้นก็มีคนพม่าหลายรายที่พูดภาษาไทยได้พยายามให้เช่ารถเพื่อพาไปเที่ยวคันละ 300 บาท แต่ผมบอกว่าเคยมาแล้วแต่ต้องไปสแตมป์เอกสารก่อน (มาครั้งแรกแต่ทำเป็นรู้ไปก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากัน) ผมเดินตามชาวต่างชาติเกือบไม่ทัน เพราะโดนล้อมให้เช่ารถเห็นฝรั่งเดินไปถึงบริเวณสามแยก จะมีตึกสีเขียว ๆ ติดริมทะเลตั้งอยู่ เป็นอาคารสองชั้นมีเสาอากาศสูง ๆ ด้านบนอาคาร ห่างจากจุดจอดเรือประมาณ 200 เมตร จึงเดินตามเข้าไป จึงรู้ว่าที่นี่เป็นด่านตรวจคนเข้าเมืองพม่าที่เกาะสอง จากนั้นก็เข้าไปทำเอกสารเจ้าหน้าที่กับเจ้าหน้าที่พม่าเขาพูดเป็นภาษาอังกฤษว่าเสียค่าธรรมเนียมคนละ 30 บาท ส่วนเอกสารก็คืนเรา ผมทำเอกสารเสร็จก็ตั้งหลักว่าจะไปไหนดีทั้งที่ไม่เคยมา ชาวพม่าหลายคนก็มารุมถามจะให้เช่ารถเหมือนเดิม ผมจึงเดินปลีกตัวไปฝั่งตรงข้าม ดูตึกอาคาร ร้านค้า ดูวิถีชีวิตของชาวพม่าที่เกาะสอง เรียบไปตามแม่น้ำ ถ่ายภาพไปซักพักก็มีพม่าคนหนึ่งบอกไม่ให้ถ่าย (ผมจำได้ว่าคนนี้จะให้ผมเช่ารถเที่ยวแต่ผมบอกว่าเดินเที่ยวก่อน) ผมจึงเก็บกล้องไปถ่ายต่อในตลาดริมทะเลเกาะสอง (ผมไม่สนใจหรอกแต่ไม่อยากมีปัญหาเพราะพม่าเปิดประเทศแล้วอะ แถมไม่มีป้ายไม่ให้ถ่ายภาพซะหน่อย และเท่าที่ผมเห็นเวลาผมถ่ายภาพจะมีคนพม่าโบกมือเล่นกล้องกับผมหลายคนแหนะ) ผมเดินเข้าไปเที่ยวในตลาดขายของดูว่าเขามีอะไรขายกันบ้าง มีวิธีการขายแบบไหนก็ลองดูเอาตามคลิปวีดีโอ กับภาพที่ผมถ่ายมาละกัน
ผมเดินเที่ยวตลาดที่เกาะสองไม่นานก็อยากจะไปเที่ยวต่อแต่ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนเพราะมีแต่ภาษาพม่าล้วน ๆ เลย จึงตัดสินใจไปเช่ารถคันนั้นแหละที่เขาบอกไม่ให้ถ่ายภาพ (อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าเช่ารถแล้วจะบอกอีกไหมว่าห้ามถ่ายภาพ) คนที่พูดไทยได้ไม่ได้ไป แต่บอกให้เพื่อเขาไปแทนโดยคนขับพูดภาษาไทยไม่ได้ แต่เขาพาไปได้มี 3 ที่ด้วยกัน คือ อนุสาวรีย์บุเรงนองเกาะสอง เจดีย์ปิดอร์เอ และก็ตลาดช็อปปิ้ง ในราคา 200 บาท (ต่อรองจากราคา 300 บาทแล้ว) แรกกับความไม่รู้และพึ่งเคยมาเป็นครั้งแรก
คนรถขับผมพาไปบริเวณสามแยกตรงที่ไปสแตมป์เอกสารนั่นแหละ จากนั้นก็เลี้ยวขวาขึ้นเนินไปตามทางประมาณ 1 กิโลกว่า ๆ ก็ถึง อนุสาวรีย์บุเรงนองเกาะสอง ที่นี่เขาเก็บค่าเข้าด้วยแหละจริงปล่าวไม่รู้อะ แต่คนเก็บบอกว่าคนละ 20 บาท ดูรูปตั๋วก็แล้วกันว่าจริงปล่าวเพราะผมอ่านภาษาพม่าไม่เป็นอะ
อนุสาวรีย์บุเรงนองเกาะสอง สร้างขึ้นเพื่อเป็นเป็นอนุสาวรีย์เพื่อเป็นที่ยึ่ดเหนี่ยวจิตใจของชาวพม่าฝั่งตอนตอนใต้ของประเทศพม่า ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา อนุสาวรีย์บุเรงนอทรงยืนหันหน้าไปยังฝั่งประเทศไทย มือกุมดาบ และมีเสาธงชาติพม่า เพื่อให้รู้ว่าเป็นฝั่งประเทศพม่า ด้านล่างเป็นวิวผืนน้ำทะเลอันดามัน สามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ของทะเลอันดามัน และมองเห็นบ้านเมืองของประเทศพม่าในบริเวณริมทะเล ด้านล่างของอนุสาวรีย์บุเรงนอง มีรายละเอียดการก่อตั้ง และประวัติเกี่ยวกับอนุสาวรีย์บุเรงนองเกาะสอง ผมเดินเที่ยวชมถ่ายภาพซักพักก็ต้องรีบไปต่อเพราะแดดร้อนมาก ร้อนจริง ๆ จึงกลับไปนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปต่อที่เจดีย์ปิดอร์เอ
มอเตอร์ไซค์รับจ้างขับออกมาเส้นหลักแล้วเลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงไปประมาณ 1 กิโลกว่า ๆ ก็เจอสี่แยกที่มีรูปปั้นของใครผมไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เป็นรูปคนขี่ม้าอยู่ มอเตอร์ไซค์ขับเข้าไปทางด้านขวามือของรูปปั้นเป็นทางเล็ก ๆ มีบ้านเรือนเรียงรายไม่เกิน 500 เมตร ก็ถึงหน้าทางเข้าเจดีย์ปิดอร์เอแล้ว
เจดีย์ปิดอร์เอ ภาษาไทยหมายถึง เจดีย์แห่งความสงบร่มเย็น ตั้งอยู่บนเนินเขามองเห็นวิวตลาดริมทะเลบนเกาะสอง มองเห็นวิวสวย ๆ ของทะเลอันดามันฝั่งพม่า เจดีย์ปิดอร์เอ จำลองจากเจดีย์ชเวดากอง ภายในเจดีย์มีสิ่งศักดิ์มากมาย มีป้ายบอกเป็นภาษาไทย สำหรับคนที่จะเดินทางมาสักการะ ใต้ฐานเจดีย์มีพระประจำวันเกิด ด้านในตกแต่งข้างฝาผนังประดับด้วยกระจกทำให้มีความสวยงาม ด้านนอกเจดีย์ปิดอร์เอมีหลวงพ่อทันใจนักท่องเที่ยวสามารถนำดอกไม้มาบูชาได้ ภายในบริเวณเจดีย์ปิดอร์เอไม่อนุญาตให้ใส่รองเท้าเข้าไป ในช่วงเวลากลางวันจะร้อนมากเพราะพื้นเป็นพื้นกระเบื้อง เจ้าหน้าที่จะนำพรมมาวางไว้สำหรับคนที่จะมาทำความเคารพเจดีย์ปิดอร์เอ
ผมเห็นคนที่บอกผมว่าไม่ให้ถ่ายรูปมาดักทางเข้าเจดีย์ปิดอร์เอ พร้อมกับบอกและแนะนำเป็นภาษาไทย แล้วผมก็ถามเขาว่าถ่ายรูปได้ไหมเขาบอกว่าถ่ายรูปได้ จากนั้นเขาก็ไปหยิบดอกไม้มาให้ 1 ช่อ แล้วบอกว่าให้ขอพรกับหลวงพ่อทันใจจะได้พรสมหวังทุกประการ แต่ว่าต้องเสียค่าดอกไม้ช่อละ 50 บาท แต่ให้ไหว้พระก่อน แล้วจะพาเข้าไปดูใต้ฐานเจดีย์ ผมเข้าไปไหว้พระประจำวันเกิด และดูความสวยงามภายในฐานเจดีย์เจดีย์ปิดอร์เอ แล้วก็ออกมาถ่ายภาพวิวสวย ๆ ข้างนอกจะเห็นวิวทะเล และเมืองเกาะสองสวยมาก จนไม่อยากไปไหน อยากจะนั่งเล่นให้ลมพัดเย็นสบาย ๆ นาน ๆ หน่อย พักเดียวเท่านั้นเจ้าพม่าคนนี้ก็เอาบัตรมาให้ผมบอกว่าเสียค่ากล้องถ่ายภาพคนละ 20 บาทด้วย (บอกว่าถ่ายภาพได้แต่เวลาเสียตังมาบอกทีหลัง เฮ้อ)
ผมกำลังจะออกจากเจดีย์ปิดอร์เอ เพื่อไปตลาดช็อปปิ้ง เจ้าพม่าคนที่พูดได้ถามผมว่าอยากไปไหม ผมก็บอกไปว่าตกลงกันแล้วไงว่ารวมไปตลาดช็อปปิ้งด้วยไง เขาบอกว่าเขาจะพาไป แต่ว่าของแพงมาก ของแพงกว่าฝั่งประเทศไทยอีก แล้วผมก็นั่งคิดบนรถว่าถ้าเราไปคงเสียตังอีกแน่ ผมเลยบอกว่าไปส่งท่าเรือดีกว่า เอาไว้มาคราวหน้าจะเดินเที่ยวเองทั้งหมด เดินไปคนเดียวดีกว่าสบายใจกว่าเยอะ เมื่อรถมาถึงท่าเรือผมจ่ายตังค่ารถมอเตอร์ไซค์นำเที่ยวกับคนพาเราไป ส่วนเจ้าพม่าคนที่พูดไทยได้ขอค่าไกด์กับทริปเราบอกว่าไม่มีแล้วไปแค่แป๊บเดียวไม่ถึงชั่วโมงเลย จากนั้นก็มีคนเข้ามาอีกจะให้เหมาเรือกลับฝั่งประเทศไทย 200 บาท ผมเลยเดินลงเรือที่จอดรถลูกค้าตรงท่านั้นกลับเลย เสีย 50 บาท เหมือนเดิม ส่วนเอกสารก็ให้กับคนขับเรือเดี๋ยวเขาจะเอาไปให้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งไทยให้เอง ทริปนี้กลับแล้วหมดกี่บาทไม่แน่ใจสรุปในคลิปวีดีโอข้างล่างนี้นะ ส่วนใครจะมาเที่ยวก็หาคนเป็นภาษาพม่ามาช่วยก็ดีนะจะได้ง่าย และเที่ยวได้มากกว่านี้ ส่วนคนที่จะมาค้างคืนที่เกาะสองนี้ก็ได้นะผมถามคนพม่าที่พูดไทยได้ว่ามีโรงแรมให้พักอยู่ตั้งแต่ 400 บาท ยันหลัก 1,000 บาทขึ้นไป ใบผ่าแดนชั่วคราวอยู่ได้ 3 วัน ส่วนพาสปอร์ตก็อยู่ได้หลายวัน ส่วนจะขับรถไปเที่ยวพม่าไปในเมืองอื่นก็ก็ได้ แต่ถนนออกจากเกาะสองไปไม่ค่อยดีเท่าไรคนพม่าบอกมานะ ทริปนี้ผมว่าดีนะทริปหน้ามาอีกคงสนุกกว่านี้เพราะพม่าเปิดประเทศแล้วกะจะเข้าไปลึก ๆ จะได้มีเรื่องราวมาเล่าให้ฟังอีกนะ ทริปนี้บ๊าย บาย ไปก่อนนะ
|