User ยินดีต้อนรับ ผู้มาเยี่ยม
   

ให้บริการเช่ารถตู้ พร้อมคนขับ สำหรับ : ท่องเที่ยว ประชุม สัมมนา ตีกอล์ฟ รับ-ส่ง แบบรายวัน วิ่งงานประจำ
บริการเช่ารถตู้เอ็นจีวี เป็นรถตู้รุ่นใหม่ รุ่น VVT-I สามารถใช้ได้ทั้งระบบก๊าซเอ็นจีวี และระบบน้ำมัน
ที่ได้รับมาตรฐานจากศูนย์เอ็นจีวีคาร์เซ็นเตอร์ ความปลอดภัยดีเยี่ยม
เป็นรถประหยัดเชื้อเพลิง เพียง กม.ละ 1 บาท เท่านั้น ภายในรถตู้กว้าง พร้อมเครื่องเสียง ทีวี แอร์เย็นฉ่ำ
จองที่พักปาย
จองที่พักปาย
โต๊ะจีนนครปฐม โต๊ะจีนดี คุณภาพอาหารเยี่ยม ไมตรีโภชนา
โต๊ะจีนนครปฐม โต๊ะจีนดี คุณภาพอาหารเยี่ยม ไมตรีโภชนา
  NewTopic NewReply
 Topic เที่ยวเมืองท่าแขกสองวันก็ครบทุกรสชาติแล้ว
User anna (Administrator)
เป็นสมาชิกเมื่อ : 18/3/2552
โพสต์ : 83
 
Vcard 11 กรกฎาคม 2556 - 11:59:49 น.  
DotE

เที่ยวเมืองท่าแขกสองวันก็ครบทุกรสชาติแล้ว

เมืองท่าแขกวันวานที่ผมเคยได้มาเยือนแล้วในครั้งก่อน ผมยังรู้สึกหลงไหลกับความเจริญและความเป็นมิตรของคนลาวแท้ ๆ รวมถึงคนลาวเชื้อสายเวียดนาม ที่ได้มาพูดคุยท่องเที่ยวหลายปีก่อน พอมาปีนี้ได้มาเยือนจังหวัดนครพนมอีกครั้ง จึงอยากจะเก็บเกี่ยวเอาความรู้สึกเดิม ๆ ที่เคยได้ลิ้มรสว่าวันนี้จะสุขเหมือนเดิมหรือเปล่า หรืออาจจะดีกว่าเดิมไหม จึงตัดสินใจท่องเที่ยวแบบชั่วคราวแบบว่าทำเอกสารผ่านแดนชั่วคราวที่นครพนมไปก่อน เพราะอย่างน้อยก็อยู่ได้ 3 วัน 2 คืน อาจจะค้างคืนหรือไม่ค้างเดี๋ยวดูอีกที
ร้านปิ้งย่างเมืองท่าแขก
ทริปนี้เป็นทริปสั้น ๆ ที่ผมแนะนำว่าไม่ยากสำหรับคนที่เที่ยวนครพนม ไปหาที่ฝากรถตามโรงแรมก็ได้ถ้าหากจะข้ามไปเที่ยวหลายวัน หรือไปวันเดียวก็เอารถไปจอดริมโขงบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม จากนั้นก็เริ่มต้นจากการทำเอกสารได้ไม่ยาก มีแค่บัตรประชาชนใบเดียวเขาทำให้เสร็จเลยอะ ไม่เกิน 40 บาท ไม่นานก็เอาเอกสารไปยื่นที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งไทย เสียค่าธรรมเนียมออกไทยคนละ 40 บาท แล้วก็ค่าเรือโดยสารข้ามแม่น้ำโขงคนละ 60 บาท จากนั้นก็นั่งรอเรือออก ส่วนใหญ่ก็เป็นเรือฝั่งลาววิ่งข้ามไปมาทั้งวันจนถึงเวลาประมาณ 5 โมงเย็น เรือรับส่งก็จะหยุดวิ่งแล้ว เรือใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที ก็มาถึงฝั่งประเทศลาว ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน เราเสียค่าปี้ หรือค่าธรรมเนียมอีกคนละ 40 บาท จากนั้นก็ขอแผนที่ท่องเที่ยวอีกครั้งว่ามีอะไรอัพเดทไหม









ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม
วิวจังหวัดนครพนม
เรือโดยสารที่ข้ามไปประเทศลาว
ผู้โดยสารบนเรือ
นั่งเรือข้ามลำน้ำโขง
ผมตัดสินใจจะไปหาเช่ามอเตอร์ในเมืองท่าแขกแต่เวลาที่มาถึงแดดร้อนเอามาก ๆ บวกกับอยากนั่งดูวิวสวย ๆ มากกว่าขี่รถเองเลยต่อลองกับรถสามล้อเที่ยววัดพระธาตุสีโคตะบอง ตลาดเช้าหลักสาม ตลาดแล้งหลักสอง และชมกำแพงหิน ในราคา 600 บาท เหมาน้ำมันทั้งวัน แต่ผมคิดว่ามันก็สูงไปหน่อยนะ ถ้าเดินไปหาเช่าข้างนอกน่าจะได้ประมาณ 500 บาท

ผมไปทีพระธาตุสีโคตะบองก่อนวิ่งเรียบไปตามถนนเรียบแม่น้ำโขงไปทางลาวตอนใต้ไม่ไกลนักก็ถึงวัดพระธาตุสีโคตะบอง ผู้หญิงใส่กางเกงเข้าไม่ได้นะต้องใส่ซิ่น ส่วนผู้ชายใส่กางเกงขายาวเข้าได้ตามปรกติ ตามประวัติเล่าว่าใครขออะไรก็ได้โดยเฉพาะเรื่องของหาย แต่อย่าขอเรื่องความรักนะ เพราะคนลาวเล่าว่าพระยาสีโคตะบองเสียชีวิตเรื่องความรัก หลังจากได้ไหว้พระธาตุสีโคตะบองเสร็จ ก็เข้าไปกราบไหว้พระในพระอุโบสถ ก็เห็นคนลาวขอพระด้วยการลูบฆ้องให้มีเสียงกังวาล เอาประมาณว่าลูบฆ้องกันจนมันวาววับไม่ต้องขัดกันเลย ผมนั่งไหว้พระขอพรจากพระพุทธรูปในวัดพระธาตุสีโคตะบองซักพักจนเย็นกายเย็นใจ ก็ให้สามล้อไปตลาดเช้าหลักสามกันต่อ



ทำบุญเชื่อนำดอกไม้ไปกราบไหว้พระธาตุ 
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดพระธาตุสีโคดตะบอง
พระธาตุสีโคดตะบอง
พระอุโยสถวัดพระธาตุสีโคดตะบอง
ถูระฆังให้มีเสียงกังวาล
พระพุทธรูปภายในพระอุโบสถ
พระพุทธรูปในวัดพระธาตุสีโคดตะบอง
ช่วงที่ผมมาถึงมัน 11 โมงกว่าแล้ว ผมบอกได้เลยว่าที่ตลาดหลักสามไม่ค่อยคิกคักเหมือนตอนเช้าที่ผมเคยมาดู เพราะเช้า ๆ ที่นี่จะมีคนทำงาน มีนักเรียน ชาวบ้านเอาของมาวางพื้นซื้อขายเป็นจำนวนมาก รวมถึงสัตว์ป่าก็มีให้เห็นเยอะแยะ ขนมของกินใหม่ ๆ ก็เดินหากินได้ไม่ยากที่ตลาดเช้าหลักสาม นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่า แมลงต่าง ๆ ขนมแปลก ๆ ตอนเช้านี่เยอะจริง ๆ เนื้อสุนัขยังมีสองถึงสามร้านค้าเลย ผมเดินเที่ยวดูความเปลี่ยนแปลงของที่นี่ว่าเปลี่ยนแปลงไหม ก็ไม่เปลี่ยนแปลง ตลาดใหญ่ของขายเยอะเหมือนเดิม ตลาดหลักสามนี้ถ้าใครได้มาเที่ยวก็ควรแวะมาดูวิถีชีวิตคนลาวที่เมืองท่าแขกในช่วงเช้า ๆ กันดีกว่า


ลานจอดรถบริเวณตลาดเช้าหลัก 3
ร้านขายเสื้อผ้าในตลาดเมืองท่าแขก
ร้านขายปลาแม่น้ำ
ปลาจากแม่น้ำโขง
ร้านขายเนื้อสัตว์
ร้านขายเนื้อสุนัข
ร้านขายตั๊กแตน
ร้านขายปลาร้า ปลาแดก
ร้านขายขนมครก
ร้านขายขนม
ร้านขายปู
ร้านขายผัก
ผมนั่งสามล้อต่อไปยังตลาดแล้งหลักสองต่อ มันจะอยู่ไม่ไกลจากวงเวียนในตัวเมืองท่าแขกซักเท่าไรอยู่ตรงแยกที่จะวิ่งไปทางริมโขงได้ ห่างจากวงเวียนไม่เกิน 1 กิโลเมตร ตลาดหลักสองนี้เมื่อคราวที่แล้วผมไม่ได้แวะมา เพราะมันมีช่วงเที่ยงจนถึงเย็น ๆ เข้าไปถึงก็เห็นแม่ค้าโทรศัพท์สวยดั้งโด่ง หน้าเรียวยังกับไม่ใช่คนไทยสะดุดตามาแต่ไกล โอ้แม่ค้าลาวเหรอนี่ไม่น่าเชื่อ ผมเดินตรงไปดูพวกรุ่นป้า รุ่นยาย ดีกว่าเพราะผมต้องคุยกับคนรุ่นนี้มันถึงจะได้รสชาติว่าได้อินในอารมณ์การมาเที่ยวลาวอย่างแท้จริง เดินไปเดินก็ไม่มีอะไรมากของขายทั่วไป แกง กับข้าว หมูทอด ส้มต่าง ๆ ขนม ผัก ผลไม้ เสื้อผ้า ของใช้เบ็ดเตล็ด ร้านทอง แต่ร้านซีดีหน้าตลาดนี่ซิแม่ค้าสวยจริง โอ๊ยอย่าคิดมากไปดีกว่ายังมีกำแพงหินที่ผมตั้งใจมาดูว่าเขาทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจริงจังหรือยัง จึงให้สามล้อพาแล่นไปในช่วงเวลาบ่ายปลาย ๆ

หน้าตลาดหลักสอง เมืองท่าแขก
ที่จอดรถจักรตลาดหลักสอง
ร้านขายของในตลาดแลงหลักสอง
ร้านทำบายสี เพราะวันนี้เป็นวันพระ
ร้านขายผักสวนครัว
ร้านขายข้าวแกงในตลาดหลักสอง
ร้านขายเนื้อย่าง
ร้านขายเฝอ
ร้านค้าในตลาดหลักสอง
ข้าวต้มมัดไส้หมู
ร้านขายข้าวต้มมัด ส้มหมู
ข้าวต้มมัดลาว ในตลาดหลักสอง
ร้านขายของใช้ต่าง ๆ
โซนนี้เป็นร้านขายทองในตลาดหลักสอง
เราเริ่มนั่งออกจากเมืองท่าแขกใช้เส้นทางหมายเลข 13 ใต้ ขึ้นไปทางเมืองเวียงจัน กำแพงหินจะอยู่ทางด้านซ้ายมือเห็นเป็นกำแพงหินที่สมบูรณ์ก็มี สูงตระหง่าน บางช่วงก็ถูกทำลายไปแล้วในช่วงที่เป็นบ้านเรือน หรือโรงงาน แต่ที่สำคัญใครจะไปเชื่อว่าที่นี่มีเซเว่นอยู่ระหว่างทางไปแล้ว โอ้แม้เจ้าผมไม่อยากจะเชื่อว่าเซเว่นอยู่นอกเมืองไม่ใช่ปั๊มปตท.ด้วย ซึ่งปกติเส้นนี้ก็มีปั๊มปตท.ใหญ่ ห้องน้ำสะอาด แต่ทำไมเซเว่นไปอยู่ในโรงแรมภูช้างเพลสละเนี่ย นี่ก็เป็นสัญญาณเตือนได้ว่าอีกหน่อยลาวจะต้องเปลี่ยนไปแล้วหากใครไม่ได้เข้ามาเที่ยวลาววันนี้วันหน้าก็จะไม่มีความเก่าแก่ที่เป็นมนต์ขลังให้ได้เห็น เพราะชาวจีนกำลังเข้ามาในอาเซียนและเซเว่นกับโรงแรมภูช้างเพลสที่เห็นเป็นคนจีนสร้าง

ผมนั่งชมวิวกำแพงหินโบราณไปจนถึงหลัก 8 ก็จะเห็นป้ายแหล่งท่องเที่ยวกำแพงยัก รถพาลงเข้าไปเป็นทางดินเล็ก ๆ แต่เป็นทางที่มีคนเข้าออกตลอดไม่เกิน 300 เมตรก็ถึงที่จอดรถ และตรงด้านหน้าก็เป็นแนวกำแพงหิน แต่ไม่ได้ต่อกันเพราะบางส่วนถูกทำลายทำเป็นทางเดินไปแล้ว ผมนั่งชมความเก่าแก่ ความอลังการของกำแพงยักอยู่ซักพัก คุยกับคนขี่สามล้อว่าสร้างมายังไงเพราะประวัติศาสตร์ลาวไม่บอกแน่ชัดว่าใครเป็นคนสร้าง เขาก็บอกไม่รู้เหมือนกันรุ่นคนเก่าแก่บอกว่ายักสร้างขึ้น ก็อาจะเป็นไปได้ว่าเมื่อก่อนมนุษย์เราตัวใหญ่จึงสามารถสร้างหินขนาดนี้ขึ้นมาได้ ผมลองเดินไปเทียบกับหินชั้นแรกก็สูงกว่าผมซะอีก ผมว่าสูงเกือบ 180 เซ็นติเมตรแล้วนะ แล้วมีตั้ง 7-8 ชั้นหิน มันก็น่าสงสัยนะว่าจะยกขึ้นไปกันยังไงทั้งสูงทั้งหนักขนาดนั้น ด้านในยังมีที่นั่งสำหรับการมาประชุมของชาวบ้าน แต่ที่นี่แมลงหวี่เยอะมากตอมตาเป็นพวน แล้วหนอนคันก็เยอะ ก็ต้องไปแล้วจบทริปที่กำแพงยัก



กำแพงหินสูงมาก
กำแพงหินโบราณเมืองท่าแขก
แนวกำแพงหินแขวงคำม่วน
ที่นั่งบริเวณกำแพงหิน
แนวกำแพงหิน
ที่นั่งที่ถูกทำไว้เวลามีการมาประชุม
ธรรมชาติที่อยู๋รอบกำแพงหิน
ร่องลอยของหินที่ตกลงมา
เส้นทางหมายเลข 13 ใต้
แนวกำแพงหินยาวเป็นสิบโล
เส้นทางการเดินเที่ยวชมกำแพงหิน
ต้นไม้ที่ปกคลุมกำแพงหิน
กำแพงหินเมืองท่าแขก
แนวกำแพงหินสูงใหญ่
ที่นั่งสำหรับบริเวณกำแพงหิน
กำแพงหินโบราณทคนลาวบอกว่ายักษ์สร้าง
แนวกำแพงหินแขวงคำม่วน

ระหว่างกลับก็เข้าห้องไปดูห้องน้ำลาวว่าพัฒนาหรือยังที่ปั๊มน้ำมัน ปรากฏว่าห้องน้ำในปั๊มน้ำมันสะอาดใช้ได้ไม่สกปรก ไม่ต้องเสียค่าเข้าด้วย ก็สรุปได้เลยว่าลาวกำลังพัฒนาแล้ว

แต่ทริปนี้ไม่ได้ค้างในเมืองท่าแขกกะว่าจะกลับเข้าฝั่งไทยในช่วงเย็น เดินเล่นนิดหน่อย ให้เพลิน ๆ แต่เดี๋ยวก่อนที่จริงที่คำม่วนยังมีอีกมากมายที่ผมไปมาแล้วในช่วงหลายปีก่อนที่อยากจะแนะนำที่พักให้ได้ดูแล้วกันว่าในเมืองท่าแขกยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมาก ถ้าอยากจะเที่ยวต่อก็สามารถค้างคืนได้เลยห้องพักก็หาไม่ยากราคาก็ประมาณอยู่ที่คืนละ 500 บาท ลองไปดูตัวอย่างที่พักที่ผมจะแนะนำให้ดู
หน้าทางเข้าโรงแรมมินดี้เจ minde j Hotel
โรงแรมมินดี้เจ minde j Hotel
โรงแรมมินดี้เจ minde j Hotel มี 2 ฝั่ง
เค้าเตอร์บริการผู้ที่มาใช้บริการ หรือมาเที่ยวเมืองท่าแขก
เตียงนอนในห้องพักโรงแรมมินดี้เจ minde j Hotel
เครื่องอำนวยความสะดวกภายในห้องพักโรงแรมมินดี้เจ minde j Hotel
ห้องน้ำภายในห้องพักโรงแรมมินดี้เจ minde j Hotel
ส่วนกลางคืนก็แวะเที่ยวถนนแคมโขงมองวิวประเทศไทยข้ามลำน้ำโขงที่นี่ พร้อมกับหาอาหารอร่อย ๆ กิน ดีกว่าได้บรรยากาศดีด้วย เพราะบริเวณนี้นอกจากคนลาว ยังมีคนเวียดนามที่มาขายของรวมถึงมานั่งกินอาหารบรรยากาศแบบเวียดนาม ก็ลองดูโต๊ะที่เขานั่งดิ แบบนี้ที่เวียดนามมีเยอะ


ถนนแคมโขง เมืองท่าแขก
ร้านค้าริมถนนบ้านท่าแขกกลาง
ร้านอาหารที่เปิดขายบริเวณริมแม่น้ำโขง
ร้านปิ้งย่างเมืองท่าแขก
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็ยังมีอีกแต่ที่แนะนำก็ ถ้ำปาฝา หรือถ้ำพระ การเดินทางไปต้องวิ่งไปทางเส้นที่จะไปด่านเวีดยนามได้ แต่มีป้ายบอกว่าไปถ้ำพระ ซึ่งระหว่างทางจะเป็นทางลูกรังแนะนำเช่ามอเตอร์ไซค์ไปเช้า ๆ นะเพราะอากาศจะร้อน ถ้าไม่ใช่หน้าน้ำก็สามารถเดินเท้าได้ แต่ถ้ามีน้ำขึ้นก็ต้องเสียค่าพายเรือไปกลับคนละ 1 ดอลล่า ในถ้ำพระมีพระพุทธรูปสวยงามมาก โดยพระพุทธรูปแต่ละองค์มีประวัติจากผู้ดูแลถ้ำเป็นผู้บอก ทุกองค์เก่าแก่มากมาย เรียงรายเหมือนอยู่บนชั้นหินงอกเป็นชั้น ๆ สวยจริง ๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีขโมยเข้าไปเพราะจะมีคนดูแลถ้ำเฝ้าถ้ำไม่ให้คนเข้าออกในช่วงเวลากลางคืน แต่ภายในไม่อนุญาติให้ถ่ายภาพอะ นอกจากนี้แล้วยังมีถ้ำอื่น ๆ อื่นมากมายแต่ขอแนะนำที่นี่เพราะสุดยอดแล้ว
ร้านอาหาร และลานจอดรถ ก่อนเข้าถ้ำปาฝา
ร้านอาหาร และร้านของฝาก
ร้านขายอาหารก่อนขึ้นถ้ำปาฝา
ร้านขายของฝากก่อนขึ้นถ้ำพระ
ลงเรือขึ้นถ้ำพระ คนละ 7,000 กีบ
ลอดถ้ำชมความสวยงามด้านล่างถ้ำพระ
ทางขึ้นถ้ำพระ
ภายในถ้ำพระ หรือถ้ำปาฝา
ขากลับก็แวะไปซื้อของฝากที่สี่แยกท่าแขกเพราะมีของขายมากมายไม่ว่าจะเป็น ส้มหมู ส้มปลา ขนมป่าน หม่ำ หนังวัว ข้าวผ่อง ลองซื้อไปฝากคนทางบ้านกินกันดูก็แล้วกัน

พอหอมปากหอมกันแล้วนะกับการมาเที่ยวเมืองท่าแขกวันเดียวแล้วก็ขอสรุปค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่เข้ามาเที่ยวเมืองท่าแขกให้ฟังนะ

จากฝั่งทั้งค่าทำเอกสาร 40 บาท ค่าธรรมเนียม 40 บาท ค่าเรือโดยสาร 60 บาท
ค่าธรรมเนียมเข้าลาว 40 บาท
ค่าเช่ารถ 600 บาท (ไปหลายคนก็ช่วยกันแชร์ได้ เหมาแบบ VIP เลย ไม่แวะรับแขกตามรายทาง) ส่วนอยากกินอะไรซื้ออะไรในลาวบวกกันเองก็แล้วกันเน้อ 
ขากลับเสียค่าธรรมเนียมออกลาว 40 บาท ค่าเรือโดยสาร 60 บาท
รวม ๆ แล้วทริปเที่ยวเมืองท่าแขกวันเดียวก็ประมาณ 880 บาท 
หมดทริปเมืองท่าแขกวันเดียวแล้วคร๊าบจะเที่ยวต่อลองต่อยอดกันเอาเองนะ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้า

DotE
LastUpdate ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2556 - 15:34:27 น.
 
Information ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของระบบไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม กรุณาแจ้งที่ Email annop_nanya@hotmail.com เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
Copyright © 2009 www.annaontour.com. All rights reserved.
Untitled Document
สถิติผู้เข้าชม ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 4 ราย