เที่ยวเกาะกง อยากรู้ว่ามีอะไรดีกว่าคาสิโนไหม Koh Kong Tour หน้า3

การเดินทางผมยังไม่สิ้นสุดฟ้าไม่มืดหรือฝนไม่ตกก็จะไปต่อ ขับรถมอเตอร์ไซค์มาในเมืองก็เห็นหนุ่มสาวชาวเกาะกงขับมอเตอร์ไซค์กันไปเป็นคู่ ๆ หลายคันเลยขับตามไปดู เขาจะไปเลี้ยวบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำเกาะกงฝั่งหน้าธนาคารแห่งชาติกัมพูชา ผมขับตามไปก็เห็นวัยรุ่นเต็มไปหมด และที่นี่ก็มีร้านอาหาร ร้านผลไม้ ร้านน้ำ ของกินเพียบมีที่นั่งกินริมแม่น้ำเกาะกงบรรยากาศดีเย็นนี้ฝนไม่ตกด้วย เห็นวัยรุ่นมานั่งกินกันเป็นกลุ่ม ๆ โดยเฉพาะสาวกัมพูชาเยอะมาก ผมเดินเล่นและสั่งผัดไทยเขมรมานั่งกิน วิธีทำก็คล้าย ๆ ผัดไทยบ้านเรา แต่เส้นไม่คล้ายเลยปกติเราใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวส่วนเขาใช้แป้งเป็นท่อน ๆ ผัดกับถั่วงอกแถมมีไข่โปะหน้าด้วยอะ กล่องละ 2,500 เรียล หรือ 25 บาท ก็ได้ 1 อิ่มแล้ว (ถ้าประมาณมืด ๆ หน่อยไฟฟ้าในร้านค้าจะให้แสงสว่างร้านค้าละ 1 ดวง ส่วนที่นั่งของลูกค้าจะมืด ๆ มองไม่ค่อยเห็นสงสัยหนุ่มสาวเกาะกงเขาคงชินกับบรรยากาศแบบนี้แล้วอะ

 
 









ส่วนด้านข้าง ๆ เป็นสวนสาธารณะมีคนมาออกกำลังกายเยอะเหมือนกัน และมีสวนสนุกเขมรแบบว่าต้นทุนต่ำ ตรงนี้ผมมาดูตอนประมาณ 2 ทุ่มนะ ลองมาดูกันว่าม้าหมุนของเขาเป็นกรงเหล็กมีรถเด็กเล่นอยู่ในกรงเหล็กส่วนเครื่องหมุนส่วนใหญ่คนหมุนอะ เครื่องจักปั่นไฟมีหน้าที่ให้แสงไฟกับเปิดเสียงเพลง ดูแล้วอดขำไม่ได้ เพราะเด็กเขมรชอบมากเพราะบ้านเขาไม่มีสวนสนุกเหมือนบ้านเรา
 

ผมยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่ตราบใดที่ไม่มืดก็ไปต่อผมข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเกาะกง มุ่งหน้าไปเจดีย์ขุนช้างขุนแผนที่ตั้งในแม่น้ำเกาะกงอีกฝั่งหนึ่ง ประมาณว่าเสียค่าทางด่วนเหมือนเดิม จากนั้เห็นช่องกลับรถช่องแรกไม่ต้องกลับรถให้ขับตรงไปเลยเป็นทางลูกรังขับไปสุดทางก็จะมีเดินไปยังเจดีย์โบราณขุนช้างขุนแผน ที่มีวิวสวยผมเห็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่นี่ด้วยสุดยอดลมเย็นฟ้าใส มีคนกัมพูชามากราบไว้ขอพรไม่ขาดสาย จากคนที่เฝ่าที่นี่บอกว่าเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ มีแก้วแหวนเงินทอง รวมถึงพระเครื่องที่บรรจุอยู่ด้านใน ส่วนตำนานก็มีอยู่ว่า กาลครั้งหนึ่งมีลูกสาวชาวบ้านที่ชื่อทับทิม ซึ่งเป็นหญิงที่รักของขุนแผน ที่มีรูปร่างใหญ่ หัวล้าน ไม่หล่อมาก แต่ครอบครัวของเขามีเงิน แต่ทับทิมไม่ได้รักขุนช้าง ครอบครัวของขุนช้างได้ให้ทับทิมแต่งงานกับขุนช้าง หลังจากที่เธอแต่งงานกับขุนช้าง เธอก็ทรยศสามีไปรับกับผู้บัญชาการชื่อคุณเพ็ญ เมื่อขุนช้างรู้เรื่องจึงนำเรื่องนี้ไปบอกให้กับพระมหากษัตริย์ได้รับทราบ พระมหากษัตริย์ตัดสินใจตัดร่างของทับทิมเป็นสองส่วน หลังจากที่ทับทิมตายเธอถูกฝังไว้ในสถานที่ที่เธอถูกฆ่าตายเพราะเขาอยากให้เธอได้รับการไปจุติ ขุนช้างได้ตั้งเสาธงไปทางฝั่งตะวันออกของกระแสลมเวลาลมพัดก็จะได้หันธงไปทางที่ทับทิมถูกฝัง และได้สร้างเจดีย์เพื่อให้เป็นความทรงจำในความรักของเขา

















ถึงตะวันจะลับของฟ้าแต่ท้องฟ้ายังสว่างผมก็ยังไม่จบทริปวันนี้เพราะกลัวว่าพรุ่งนี้ฝนจะตกเหมือนทุกวันในตอนเช้า ก็ตัดสินใจจะไปชายหาดทางฝั่งอ่าวไทย ผมไม่เคยมาแต่ Mr.Han บอกกับผมว่าตรงบริเวณสี่แยกที่มีพระพุทธรูปใหญ่นี้ จะมีทางไปชายหาดวิ่งไปตามทางถนนจะเป็นทางลูกรังมีทรายขาวน้ำน่าเล่นขับไปประมาณซัก 5 กิโลเมตรเห็นจะได้ ผมขับรถไปจนเกือบมืดแล้วจะถามใครก็ไม่รู้เห็นเด็กเขมรคนหนึ่งขายน้ำมันขวดริมถนนผมถามเขาว่าหาดที่ไหน เขาชี้มาและตอบเป็นภาษาเขมร ผมก็ไม่รู้มันคืออะไรลองแวะไปก็คือร้านอาหารริมชายหาด จริง ๆ น่าจะมีหลายหาดแต่ผมจอดรถมอเตอร์ไซค์ที่นี่ เพื่อไม่เป็นการเสียมารยาทเดินเข้าไปซื้อเบียร์ 1 กระป๋อง แล้วลองเชิงว่าจะพูดภาษไทยได้ไหม สาวเขมรพูดไทยไม่ได้แต่พูดภาษาอังกฤษได้ก็ยังดี ผมก็อาศัย fish fish snake snake ไปเรื่อย ก็รู้ว่าที่นี่ชื่อหาดเกาะยอ ภาษาอังกฤษเขาเขียนอย่างนี้นะ kaoh yo beach ส่วนทรายขาว แต่หาดเลอะไปด้วยขยะจากกิ่งไม้เหมือนไม่ค่อยได้ทำความสะอาดหรืออยากให้มันเป็นไปตามธรรมชาติหรือปล่าว แต่น้ำทะเลไม่ใสเพราะฝนเพิ่งหยุดตกเมื่อช่วงบ่าย เอาเป็นว่าที่นี่วิวดีดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่หาดทรายนี้ได้ ประมาณเวลาซัก 1 ทุ่มวันนี้กลับไปกินข้าวที่โรงแรมแล้วนอนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่







รุ่งเช้าตื่นมาฝนยังตกเหมือนเดิมกะว่าจะไปที่เที่ยวต่อแต่ก็ดูแล้วไม่ดีฟังข่าวว่าฝนจะตกทุกวันจนต้องตัดสินใจเอารถไปคืน Mr.Ritthyแล้วให้ Mr.Han ไปส่งหน้าด่านฝั่งกัมพูชา ระหว่างไปก็เจอฝนตกหนักระหว่างกลับเอาแบบว่าเปียกทั้งหมดเป้ก็เปียกตอนแรกมันตกหยุมหยิมพอมาได้ครึ่งทางยังกับเทกระจาด หน้าด่านน้ำท่วมลึกถึงหน้าแข้ง คนยืนติดฝนหน้าด่านเต็มไปหมด ผมเดินลุยฝนกับมาด้วยความเปียกปอนกับความสุข และความสนุกกับทริปนี้ อยากกลับมาใหม่อีกเพราะรู้สึกว่าคนเกาะกงน่ารักดี คนก็พูดได้ไทย เงินได้ก็ใช้ได้ กะว่าจะขับรถยนต์เข้ามาเที่ยวจังหวัดอื่น ๆ ในกัมพูชาอีก ก่อนกลับแวะไปเอารถยนต์ที่ฝากไว้หน้าด่านโดนค่าฝากรถอีก 300 บาท ก่อนเดินทางกลับถึงบ้านโดยปลอดภัย แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้ารับรองได้มั่วภาษากับผมใหม่แน่นอน


<<กลับหน้า 2  << กลับหน้าแรก