รักน้องกุ้งเดินขบวนจุงเบย หน้า 2

ในค่ำคืนนี้ที่ได้มาน้ำตกแก่งลำดวนก็ถือว่าโอเคนะ อย่างน้อยก็มีกุ้งฝอยออกมาให้ผมได้โยมโฉมถึงความสวยงามถึงจะไม่เยอะมากมาย แต่ก็ยังออกมาเดินให้เห็นตลอดช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ บางตัวมีสีแดง บางตัวใหญ่หน่อยหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้เห็นปลาช่อน ปลาดุก ออกมาดักกินกุ้งที่กำลังเดินขั้นฝั่ง เราต้องรอเป็นช่วง ๆ เนื่องจากเวลาที่เอาไฟฉายส่องดูซักพักขบวนก็จะแตก อีกอย่างช่วงที่เราไปฝนตกพื้นเปียกกุ้งเลยเดินไม่ค่อยจะเป็นขบวนซักเท่าไหร่ สำหรับคืนนี้พักผ่อนก่อนรุ่งเช้าเจอกันอีกทีที่ตลาดสดอำเภอน้ำยืน จริง ๆ แล้วผมขับรถผ่านตลาดน้ำยืนตั้งแต่เมื่อวานเย็น เพียงแต่ผมไม่ได้เข้าไปเดินเล่น แต่ก็เห็นของกินในช่วงเวลายามเย็นมากมาย แต่ก็เอาเถอะรวบยอดเช้านี้เลยละกัน เพราะตลาดสดอำเภอน้ำยืนไม่ใหญ่มาก เดินไม่กี่รอบก็คงหมด

ตลาดน้ำยืนตอนเย็น
 ตลาดสดอำเภอน้ำยืนก็มีของกินทั่ว ๆ ไปขาย พืชผัก ผลไม้ ของใช้ในครัวเรือ อาหารสด อาหารแห้ง ของทะเล หมู เห็ด เป็ด ไก่ แต่ที่นี่เขามีส้มตำขายในตลาดสดทั้งเช้า และเย็น ไก่ย่าง หมูปิ้งก็น่ากินใช้ได้ บรรยากาศเช้า ๆ เดินเล่นตลาดบ้าน ๆ ถูกใจดีอะ
 
ตลาดสดเทศบาลอำเภอน้ำยืน
 
รถขายส้มตำที่น้ำยืน












ก่อนออกจากตัวอำเภอน้ำยืนไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอำเภอน้ำยืน อยู่ติดกับถนนหลักทางหลวงหมายเลข 2248 ทางเข้าตลาดสดอำเภอน้ำยืนนั่นแหละ เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนค่อยเดินทางไปเที่ยวกันต่อ
 
ศาลหลักเมืองอำเภอน้ำยืน










ผมมุ่งหน้าจากอำเภอน้ำยืนไปยังอำเภอนาจะหลวย ซึ่งมีพื้นที่ติดกันและไม่ถือว่าไกลมาก โดยคนที่น้ำยืนบอกผมตอนนี้น้ำตกที่ห้วยหลวงกำลังสวยมาก และจะสวยช่วงฤดูฝนนี่แหละเป็นประจำทุกปีตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ขับรถไม่เกินชั่วโมงก็ได้เข้ามาถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูจองนายองแล้ว
 
อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย phujongnayoi nation park









ก่อนเข้าอุทยานเสียค่าเข้าอุทยานแห่งชาติภูจองนายองผู้ใหญ่คนละ 40 บาท ค่ารถยนต์ 30 บาท ไปถึงหน้าศูนยย์บริการท่องเที่ยวน้ำตกห้วยหลวงประมาณ 3 กิโลเมตรกว่า ๆ ทางเป็นลาดยางตลอดรถขับสวนทางได้ไม่ไกลก็ถึงลานจอดรถยนต์ มีร้านอาหาร ศูนย์บริการ ลงรถได้ก็ลงไปเที่ยวน้ำตกห้วยหลวงกันเลย เป็นน้ำตกสูงประมาณ 30 เมตร แบ่งเป็น 3 ชั้น ตกลงสู่หุบเขาที่มีลักษณะเป็นอ่างน้ำขนาดเล็ก มีหาดทรายขาวและน้ำเป็นสีมรกตงดงามมาก บริเวณที่เป็นหน้าผาที่น้ำตกมีรังผึ้งหลวงขนาดใหญ่หลายรังสร้างรังติดกับผาหิน นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังหลัน้ำตกได้ เนื่องจากเวลาที่น้ำตกไหลจะมีผาหินเป็นชะง้อน ทำให้น้ำพุ่งไปข้างหน้า มองเห็นวิวผืนล่างได้อย่างสวยงามเช่นกัน ในช่วงเวลาหน้าฝนน้ำจะขุ่นและไหลแรงควรระมัดระวังในการลงเล่นน้ำในช่วงหน้าฝน นักท่องเที่ยวสามารถลงไปชมวิวบริเวณด้านล่างได้ บริเวณผืนน้ำที่น้ำตกห้วยหลวงจะมีปลาขนาดเล็กจำนวนมากแหวกว่ายให้นักท่องเที่ยวโยนโฉม ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวคือ เดือนกันยายน-กุมภาพันธ์ นอกจากนี้ยังมีทางเดินเท้าจากน้ำตกห้วยหลวงยังมีจุดชมวิวก่อนลงไปชมน้ำตกไม่ห่างจากจุดบริการซักเท่าไร ระหว่างทางจะได้เห็นฝูงผีเสื้อจำนวนมาก รวมถึงเห็นตะไคร่น้ำที่เกาะตามโขดหิน ตลอดระยะทางที่เดินทางลงน้ำตกตามบันไดประมาณ 315 ขั้นบัน
 
จุดชมวิวน้ำตกห้วยหลวง huailuang waterfall viewpoint
 
ทางเดินชมน้ำตกห้วยหลวง road to huailuang waterfall
 
huailuang waterfall น้ำตกห้วยหลวง




























กะว่าจะเล่นน้ำตกซะหน่อยแต่น้ำขุ่น และแรงยังไม่เล่นดีกว่า เพราะใกล้ ๆ ยังมีแก่งกะเลาให้ได้ไปเล่นน้ำ เย็น ๆ แก่งกะเลาเป็นบริเวณเนินหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยมีสายน้ำในในอุทยานแห่งชาติภูจอง นายอย ไหลผ่าน ก่อนที่จะไหลลงสู่น้ำตกห้วยหลวง บริเวณทางเข้าแก่งกะเลาเป็นทางดินประมาณ 400 เมตร จากเส้นทางลาดยางในอุทยานฯ บริเวณแก่งกะเลาเป็นแก่งหินขนาดไม่ใหญ่น้ำ และมีสายน้ำไม่แรงมาก เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ บริเวณรอบ ๆ แก่งกะเลา มีธรรมชาติที่อุมสมบูรณ์ มีร่มไม้สำหรับนั่งพักกินข้าวในช่วงเวลาบ่าย บริเวณรอบ ๆ แก่งกะเลายังมีผีเสื้อจำนวนมากหลากหลายสีบินว่อนในรอบบริเวณแก่งกะเลา

ทางเข้าแก่งกะเลา kaengkalao Entrance

kaengkalao แก่งกะเลา

เล่นน้ำที่แก่งกะเลา play water kaengkalao















หายเหนื่อยหายร้อนจากการได้เล่นน้ำในแก่งกะเลาแล้ว มาอุทยานทั้งทีต้องเดินไปตามเส้นศึกษาธรรมชาติในช่วงหน้าฝนด้วย เพราะดอกไม้สวย ๆ ใบไม้เขียว ๆ จะผลิใบออกดอกสวยงามน่าได้สัมผัส ค้นคว้า ศึกษา และอดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพในช่วงหน้าฝนที่ทุ่งดอกหญ้า หรือ พลาญป่าชาด ซึ่งจะมีทางเดินชมธรรมชาติดอกหญ้าสีอ่อน ๆ ใบไม้สีเขียว ๆ เป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร

ทุ่งดอกหญ้า พลาญป่าชาด

















สถานที่สุดท้ายที่เราจะแวะชมก็เป็นลานหินจากธรรมชาติที่พลาญกงเกวียน ลานหินกว้างที่ด้านหน้ามีกลุ่มหินลักษณะเป็นเพิงตามธรรมชาติ มีดอกไม้ป่าและพันธุ์ไม้ขึ้นสลับกันเป็นหย่อม ๆ และนักเดินทางในอดีตได้ใช้ประโยชน์ จากเพิงหินเหล่านี้ในการกำบังแดด และฝนในระหว่างการเดินทาง จึงเป็นที่มาของชื่อ "พลาญกงเกวียน" พลาญ หมายถึง บริเวณที่เป็นลานกว้าง กงเกวียน เพี้ยนมาจาก พวงเกวียนที่หมายถึง ประทุนเกวียนหรือกระทุนเกวียน ที่เป็นสิ่งกำบังแดดบนเล่มเกวียนหรือกระทุนเกวียน ที่เป็นสิ่งกำบังแดดบนเล่มเกวียน ที่ใช้เป็นพาหนะการเดินทางในสมัยโบราณ ลองเดินชม เดินเล่นกันก่อนกลับ สำหรับอุบลทริปนี้ เก็บความสุขให้เต็มที่ ให้อิ่มใจ ก่อนหน้าฝนจะหมดไป แล้วเตรียมเดินทางใหม่ในหน้าหนาว

พลาญกงเกวียน










<< กลับหน้าแรก