ดำน้ำเกาะทะลุ ชิมไวน์ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์ด

ทริปเที่ยวประจวบแบบง่าย ๆ ได้บรรยากาศ ดำน้ำดูปะการังเกาะทะลุ เล่นน้ำตกป่าละอู ชิมไวน์ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์ด เอาแบบไม่แพงมากนัก น่าจะเป็นแนวทางประหยัดได้จริงไหมลองดู ทริปสั้น ๆ นอนที่ประจวบ 1 คืน เดินทางไม่ยากจากกรุงเทพ แต่ทริปนี้ผมขับรถตู้ที่ใช้เอ็นจีวีเลย แบบว่าต้องการการประหยัดสูงสุด ทั้งค่าเชื้อเพลิง ค่าที่พัก (เผอิญเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย ค่ำไหนนอนนั้นอะ) แต่ไม่ต้องนอนแบบผมหรอกไปนอนตามโรงแรม รีสอร์ทสบาย ๆ ดีกว่าเพราะแถวประจวบมีเพียบหลากหลายราคา

ผมเริ่มเดินทางตั้งแต่ 6 โมงเช้า กะว่าใช้เวลาประมาณไม่เกิน 3 ชั่วโมง และน่าจะใช้เวลา 4 ชั่วโมงด้วยซ้ำ เพราะทริปนี้ผมมุ่งหน้าไปน้ำตกป่าละอูเลย ถามว่าทำไมถึงใช้เวลาเยอะ เพราะไม่ได้รีบไปเนื่องจากไม่เคยอไป คงน่าจะใช้เวลาประมาณนี้แหละ ส่วนน้ำตกป่าละอูอยู่ห่างจากถนนเพชรเกษมขับเข้าไประมาณอีก 50 กิโลเมตร ใช้เส้นทางเดียวที่จะไปวัดห้วยมงคลนั่นแหละ แต่ไม่ต้องเลี้ยวซ้ายขับตรงไปเลย ตรงอย่างเดียวจะมีป้ายบอกวิ่งไปตามป้ายเดี๋ยวเจอน้ำตกป่าละอู หรือจะจับเส้นทางหมายเลข 3219 ก็ได้

การเดินทางเข้าน้ำตกป่าละอูเสียค่าตั๋วคนละ 40 บาท ค่ารถยนต์สี่ล้อ 30 บาท จากนั้นก็นำรถไปจอดบริเวณทางเข้าแล้วก็เดินเที่ยวน้ำตกได้ตามใจชอบ น้ำตกมีตั้ง 15 ชั้น แต่เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เที่ยวจริง ๆ 5 ชั้น ส่วนการเดินไปเที่ยวนั้นก็เดินไปเรื่อย ๆ เพราะว่าทุก ๆ ชั้นมีนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือคนต่างชาติ แต่ทุกชั้นของน้ำตกป่าละอูสามารถลงเล่นน้ำได้ทุกชั้น แต่ชั้นที่สวย ๆ และน่าสนใจอยู่ที่น้ำตกป่าละอู ชั้นที่ 2 และ ชั้นที่ 3 เพราะจะมีปลาเยอะ น้ำใสเป็นแอ่งน่าเล่น เวลานักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำปลาก็จะไม่เข้าใกล้ ส่วนใหญ่ก็จะว่าออกห่าง ผมเดินถึงขึ้นไปชั้นที่ 5 แล้วก็ต้องนั่งพักผ่อน นั่งตากลมเย็น ๆ ฟังเสียงสายน้ำตกกระทบหินจนหายเหนื่อยก็เดินทางไปต่อ อีกแล้วเพราะวันนี้โปรแกรมการเดินทางยังมีอีก แต่ว่าก่อนจะเดินทางก็แวะกินส้มตำหน้าทางเข้าน้ำตกป่าละอูก่อน จะได้มีแรงเดินทางต่อสำหรับวันนี้















กลับมาเส้นทางเดินเพื่อมุ่งหน้าไปหัวหิน แต่พอเข้าบ้านหนองพลับเห็นป้อมตำรวจอยู่ด้านซ้ายมือก็เตรียมเลี้ยวขวาขับเข้าไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร แต่ว่าจะได้พบกับป้ายไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ หลังจากที่เข้ามาเห็นไร่องุ่นยาวไปจนเห็นวิวสวย ๆ บนเนินเขาที่มี ก็รู้สึกว่าใช่เลยนี่แหละไร่องุ่นของจริงเลยอะ แต่หลังจากเข้าไปได้ไม่ไกลก็มีเจ้าหน้าที่ยามบอกทางตลอดให้รถไปจอดตามจุดพักรถ เพราะมีรถมาใช้บริการเยอะพอสมควร ผมก็เลยถ่ายภาพเก็บบรรยากาศไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์ด มาฝาก แต่นอกเหนือจากไร่องุ่นผมก็เพิ่งรู้ว่าที่นี่มีการปลูกพืชผักสวนครัวแบบไว้โชว์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากมายเลย แถมผลผลิตก็ดูจะสมบูรณ์จริง ๆ แต่ที่สำคัญผมกะว่าจะไปถ่ายภาพที่จุดรับประทานอาหารด้านบนเขาซักกะหน่อย ถามไปถามมาก็ได้คำตอบว่าถ้าจะไปทานอาหารต้องจองคิวด้านล่างตรงที่บริการให้นั่งพัก ชิมไวน์ ส่วนจะได้ใช้บริการนั้นบอกได้เลยเสาร์อาทิตย์รถต่อคิวยาว ทริปนี้จึงไม่ได้ไปทานอาหาร แถมเขาบอกว่าให้เฉพาะคนที่จะเข้าไปทานอาหารเท่านั้น ถึงขึ้นไปบนห้องอาหารบนเนินเขานั้นได้ (เศร้า)















แต่ไม่เป็นไรครับโปรแกรมการเดินทางยังมีอีก แต่ว่าวันนี้จะนอนไหนดีเพราะพรุ่งนี้ต้องไปต่อที่บางสะพานน้อย เพื่อไปดำน้ำเกาะทะลุเอาเป็นว่าไปนอนแถวหาดบ้านกูดก่อนก็ได้ ส่วนที่พักไม่แนะนำอยู่ที่คนชอบครับว่าจะเอาแบบสบาย หรือจะเอาแบบราคาถูก ติดริมหาดราคาไม่ถึง 1,000 บาท ก็มี ส่วนตัวผมนั้นนอนราคาประหยัดสุดครับ กางเต๊นท์นอนริมหาดวนกรดีกว่า แบบว่าที่นี่มีที่พักสำหรับกางเต๊นท์ เสียแค่ค่าเข้าอุทยานวนกรไม่กี่บาทก็ได้ที่นอนริมชายหาดกินลมชมทะเลแล้ว (อยู่ในอำเภอทับสะแก ขับไปจะมีป้ายบอกอุทยานแห่งชาติหาดวนกร จากเส้นหลักขับรถเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตรเอง)



รุ่งเช้าผมออกจากหาดวนกร ประมาณ 7 โมงเช้า เพื่อที่จะต้องไปหาของกินในตลาดบางสะพาน เพราะที่นี่มีร้านข้าวเกรียบปากหม้อโบราณขายอยู่ เพราะผมไปทีไรต้องไปที่ร้านคุณยายคนนี้เสมอ เพราะอร่อยของจริง ข้าวเกรียบปากหม้อ ร้อน ๆ จากเตา สั่งได้เลย นั่งกินได้เลยจะเขาขายทุกวันเลยอะ มีสองไส้ เป็นไส้ผักกับไส้ถั่ว ส่วนน้ำในกระติกก็แช่ดอกมะลิเวลาเข้าไปกินข้าวเกรียบปากหม้อร้านคุณยายคนนี้ก็มันจะได้ฟิลมาก ๆ เลย

อิ่ม อิ่ม อิ่ม แล้วก็เตรียมเดินทางไปสู่ท่าเรือดำน้ำเกาะทะลุครับ สำหรับคนที่ไม่เคยไปดำน้ำเกาะทะลุลองดูข้อมูลผมนะครับ เผื่อใครจะเดินทางไปหลาย ๆ คน จะได้ราคาไม่แพง หรือไปไม่กี่คนก็ไปได้ครับ เพราะเรืออกเดินทางทุกวัน คิดเป็นรายหัว หัวละ 450 บาท ต่อท่าน เด็กครึ่งราคา หรือจะเอาแบบเหมาลำก็ได้ ประมาณลำละ 4,000 บาท เอาประมาณ 10 กว่าคน แต่ถ้าจะไปมากกว่านั้นก็ได้อันนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนคนว่ามากแค่ไหน ถ้ามาเยอะมากเรือที่ใช้ก็ต้องใหญ่ขึ้นราคาก็เพิ่มมากขึ้น ทริปนี้ผมขอแนะนำพี่สุชาติทัวร์เกาะทะลุคนนี้ใจดีพูดง่ายต่อรองราคาได้แบบว่ากันเองมาก เขาอยู่หาดสน ห่างจากตลาดบางสะพานประมาณ 14 กิโลเมตร มุ่งหน้าไปหาดสน เพราะที่นี่มีท่าเรือพี่สุชาติทัวร์เกาะทะลุเขาตั้งอยู่ เอาเบอร์โทรไปคุยกันเองนะครับ 081-7594997, 032-699455 













ส่วนรายละเอียดการเดินทาง ก็คือเรือออกไปดำน้ำตอน 9 โมงเช้า มุ่งหน้าไปให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพสัญลักษณ์เกาะทะลุก่อน






จากนั้นเรือก็พาไปดำน้ำดูปะการังใต้น้ำสวย ๆ ในฝั่งทะเลอ่าวไทย ทริปนี้ผมเอากล้องถ่ายภาพใต้น้ำไปด้วย ลองดูซิครับน่าสนใจแค่ไหน เพราะปลาเสือเยอะมาก จะมารอกินขนมปังที่นักท่องเที่ยวจะเอามาให้ (เรือจะเตรียมขนมปังมาให้ครับ) ส่วนใต้ทะเลมีอะไรบอกได้เลยว่าถ้าจะอธิบายก็ไม่เท่ากับการได้มองเห็นด้วยตัวเองครับ มีทั้งปะการัง ดอกไม้ทะเล หอยมือเสือ ปลาสวยงามมากมาย ไม่รู้จะบรรยายยังไงดี



















และสุดท้ายของทริปดำน้ำเกาะทะลุ เรือก็จะพามาเล่นน้ำหาดน้ำตื้น จะเห็นพื้นทรายสีขาว น้ำทะเลใส ๆ สลับกับพื้นทะเลสีฟ้า มันเหมือนภาพถ่ายชัด ๆ แต่เวลาดำน้ำแล้วยังมีปะการังสวย ๆ ให้ได้ดูอีกด้วยเช่นกัน










หลังจากดำน้ำขึ้นมาก็เที่ยงกว่า ๆ พนักงานบนเรือก็จะแจกข้าวกล่อง บวกกับเสริฟน้ำอัดลม น้ำเปล่าเย็น ๆ ผลไม้หวาน ๆ อาทิ แตงโม สัปปะรด ให้ทานกันบนเรือ ่(ไม่ต้องจ่ายเพิ่มนะครับ) นี่แหละกินข้าวกลางทะเลของจริง ส่วนจะเล่นน้ำต่อหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ลูกค้า ส่วนเรือก็จะอยู่จนกว่าจะถึงเวลาประมาณบ่าย 3 โมงเย็น เป็นอันว่าเสร็จทริปดำน้ำในเกาะทะลุครับ ผมกลับถึงบ้านทริปนี้ครับบอกได้เลยว่าค่าก๊าซเอ็นจีวี ประมาณ 1 พันต้น ๆ ครับเอาว่าไม่เกิน 1,500 บาท ส่วนค่าที่พักก็ไม่ถึงร้อย (กางเต๊นท์ครับ เสียแค่ค่าเข้าอุทยาน) ส่วนค่าเข้าที่เที่ยวน้ำตกป่าละอูแค่ 40 บาท ที่ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์วินยาร์ดไม่เสียค่าเข้าชม ส่วนค่าดำน้ำเกาะทะลุกับพี่สุชาติทัวร์เกาะทะลุเขาไม่คิดตังผม เพราะผมมาส่งลูกค้าให้แกบ่อยเลยฟรีไป จะมีค่าข้าวเกรียบปากหม้อก็ไม่เกิน 40 บาท แต่จะหมดไปค่าข้าวเหนียวส้มตำในวันแรกไม่เกิน 200 บาท ค่าก๋วยเตี๋ยวมือเย็นไม่เกิน 100 บาท เอาเป็นว่าทริปนี้ผมเซฟได้เท่านี้ครับ เผื่อใครสนใจก็ลองไปเตรียมการเดินทางดูนะครับ