เที่ยวทวาย ก่อนทวายจะเปลี่ยนไป dawei original tour
อันแน่ออนทัวร์ นักเดินทางที่ชอบหาสิ่งที่เป็นจริงอยู่บนโลกนี้ เวลาที่ได้เห็นเรื่องราวตามโทรทัศน์ หรือตามคลิปวีดีโอต่างๆ ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องจริงเหรอ ภาพที่เขาถ่ายมาสร้างภาพปล่าว ทำให้ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องราวที่ไม่ได้ประสบพบเจอด้วยตัวเอง อย่างประเทศพม่าเป็นเมืองที่ผมอยากเดินทางไปมาก แต่เนื่องด้วยปัญหาหลายอย่างที่ไม่สะดวกไปทำให้มีแต่คำว่าจะไป เดี๋ยวไป รอก่อน เดี๋ยวค่อยไป ก็เลยได้แต่ท่องเที่ยวบนอินเตอร์เน็ต แต่วันหนึ่งผมโชคดีมาก เมื่อมีคนที่ติดตามอันแน่ออนทัวร์ได้ไปทำทัวร์หน้าด่าน ชื่อน้องวัต Tree dawei ผมเลยถามน้องว่าถ้าผมจะไปยากไหม แล้วไปยังไง จะมีปัญหาไหม ด้วยความไม่เคยไปเลยถามหลายอย่างจนน้องเขาบอกว่าผมก็ยังไม่ได้เข้าไปเลย กำลังจะเข้าไปเหมือนกัน แต่การเข้าไปในทวายไม่ยากทำเอกสารผ่านแดนชั่วคราวก็เที่ยวในทวายได้ตั้ง 7 วัน ส่วนการทำเอกสารผ่านแดนชั่วคราวก็จะทำแถวหน้าด่านนั่นแหละแค่ 30 บาท เอกสารที่ใช้บัตรประชาชนใบเดียวพอ ส่วนรายละเอียดการเดินทางวัตให้เบอร์รถผมหลายเบอร์ให้ลองเลือกใช้บริการตามใจชอบ ผมได้ทำการลองโทรไปเกือบทุกเบอร์สำหรับรถตู้ที่เข้าไปในทวาย จนผมคิดว่าผมเจอรถตู้ที่จะพึ่งพาได้เวลาเข้าทวายเพราะผมไม่เคยไป และผมไม่รู้ภาษาพม่า และภาษาอังกฤษก็มีความรู้อันน้อยนิด สรุปผมได้เบอร์รถโดยสารจากบ่อน้ำร้อนไปทวายรับรองว่าเจ้านี้แน่นอน บริการดีเขารู้ทั้งภาษาไทย ภาษาพม่าได้ดี เพราะเขาเคยทำงานในประเทศไทยกันหลายปี เป็นพี่น้อง 3 คน ชื่อพี่จอไน จะขับรถจากไทยเข้าทวาย ชื่อซอจะรับงานฝั่งไทย ชื่อโจจะขับรถจากครึ่งทางเข้าทวาย (โทร. 89-6151402, 092-6066125) ซึ่งเรื่องราวของผมกำลังจะเริ่มขึ้นต่อจากนี้ ทริปนี้ขอบอกก่อนว่าส่วนใหญ่เวลาในการเดินทางค่อนข้างยาวสองข้างทางยังคงเป็นป่า กับพื้นที่ของทหาร ดูภาพกับคลิปวีดีโอไปแล้วจะเห็นภาพกับเสียงคนขับรถตู้เข้าทวายว่าในทวายมีอะไรดีอีกเยอะ
เริ่มจากการยื่นเอกสารหน้าด่านแบบง่าย ๆ จากนั้นก็โทรหารถตู้เลยตาเบอร์ที่ให้ไว้นะ จากนั้นรถตู้จะมารถถึงหน้าด่าน จากนั้นก็นั่งรถตู้ได้เลยคนละ 800 บาท ไปอย่างเดียวนะครับ ถ้ากลับก็บวกไปอีก 800 บาท รวมเป็น 1,600 บาทครับ
ดูบรรยากาศระหว่างการเดินทางเลย เพราะมีทั้งด่านพม่า ด่านกะเหรี่ยง หลายด่าน รวม ๆ แล้วประมาณ 5 ด่าน โดยเวลาเข้าไปเราจะต้องทำเรื่องที่ด่านพม่าก่อน ส่วนคนที่เอารถเข้าไปเองทะเบียนต้องเป็นทะเบียนพม่า ไปขอก่อนเดินทาง 7 วัน เสียค่าทำประมาณ 50 เหรียญ หรือประมาณ 1,500 บาท ไทย
ระหว่างการเดินทางเราจะเห็นแม่น้ำตะนาวศรี ในบริเวณแม่น้ำตะนาวศรี จะมีการประกอบอาชีพดูดทรายเพื่อหาทองคำในแม่น้ำตะนาวศรี ส่วนเครื่องมือการดูดทรายจะนำมาวางไว้บนแพไม้ไผ่ขนาดใหญ่ จนทำให้แม่น้ำตะนาวศรีมีลำไม้ไผ่ที่หลงเหลือจากการไม่ได้ใช้อยู่ระหว่างการเดินทางไปถึงเมืองทวาย
ก่อนเข้าทวายครึ่งทางเส้นทางจะดีแล้วจะเรียบบางช่วงลาดยางตลอด พี่จอไนต้องมาจอดรถตู้เพื่อให้ผู้โดยสารทานข้าวเที่ยงก่อน ที่บ้านเต่าโต๊งโหน่ง ที่นี่เป็นร้านข้าวแกงประจำของรถประจำทางสายนี้ เพราะร้านค้าสะอาด ห้องน้ำก็สะอาด อาหารก็น่ากิน ผมกินแล้วก็รู้สึกว่าที่นี่อร่อย และสะอาด คนในหมู่บ้านนี้ส่วนใหญ่พูดไทยได้ครับ เนื่องจากไปทำงานในสมุทรสาครกันหลายปี ระหว่างนั่งรอรถออกก็ได้คุยกับคนที่นี่เพื่อหาข้อมูลไปพราง ๆ เมื่อคนที่โดยสารมาด้วยกันอิ่มกันครบแล้วโจซึ่งเป็นน้องชายพี่จอไน ก็ย้ายผู้โดยสารจากรถพี่จอไนมาไว้ที่รถโจ แล้วโจก็พาไปทวาย ส่วนพี่จอไนกลับด่านพุน้ำร้อนอ (ปกติบางคันจะวิ่งเข้าไปในทวายเลย)
ระหว่างการเดินทางก็ไม่มีอะไรมาก วิวสองข้างทางจะเหมือนกันกับตอนที่พี่จอไนพามา แต่จะเห็นหมู่บ้านในพม่าเยอะขึ้นมาบ้างแล้ว และระยะเวลาในการเดินทางก็ชั่วโมงกว่าเองก็เข้าสู่ทวาย ส่วนสิ่งตื่นตาตื่นใจผมขึ้นมาก็ตอนจะได้เข้าทวายนี่แหละ เพราะจากความรู้สึกผมบอกได้เลยนี่คือทวายเพราะเริ่มมีรถเข้าออกหนาขึ้น ส่วนโจก็คุยภาษาไทยได้บ้างแต่ไม่ชัดเท่าพี่จอไน แต่ก็พอจับใจความได้ว่าผมมาถึงประตูสู่ทวายแล้ว ผมมองเห็นต้นตาลที่อยู่ริมถนนสองข้างทางเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร มองว่ามันสวยคลาสสิคแบบประเทศไทยสมัยก่อน แต่ดูท่าทางแล้วคงจะอยู่อย่างงี้อีกไม่นาน เพราะเสาหลักกิโลเมตรตั้งอยู่ข้างถนนกินพื้นที่ของถนนไม่นานต้นตาลพวกนี้คงถูกตัดลงเพื่อสร้างถนนแน่เลย ผมยังคิดถึงว่ามาเที่ยวทวายวันนี้ ก่อนที่จะไม่ได้เห็นทวายวันนี้ในวันหน้า
ระหว่างเข้าสู่ทวายผมมองไปมาแรก ๆ ก็คิดว่าผมคิดผิดปล่าวที่รีบมาทวายเร็วเกินไป เพราะข้อมูลก็ไม่มีอะไรเลย ภาษาพม่าก็ไม่รู้ จับจุดไม่ได้ว่าจะไปเที่ยวไหน จะนอนที่ไหน แล้วจะเที่ยวได้อย่างไร นอกจากพี่จอไนสั่งให้โจหามอเตอร์ไซค์เช่าให้ผม พาผมไปแลกเงิน พาไปโรงแรม หลังจากที่เข้าทวาย ขอบคุณพี่จอไนรถตู้ที่ด่านพุน้ำร้อนมากครับที่บริการผมได้ดีมาก ๆ เลย เอาเป็นว่าระหว่างนี้ดูบรรยากาศเมืองทวายไปจนถึงบ้านโจเลยนะ แล้วมาดูกันต่อว่าผมจะทำอย่างไรต่อสำหรับวันแรกที่มาถึง
ผมมาถึงบ้านโจแม่โจก็เข้ามาคุยด้วย ทั้งลูกโจ ภรรยาโจ ดูแล้วเขาดีใจนะว่าผมเหมือนญาติกลับบ้านมาเที่ยว แม่โจเอาพัดลมมาเปิดให้ผม เอาน้ำเย็นมาให้ผมดื่ม แล้วลูก ๆ โจก็มาล้อมผมเล่นกับผมเหมือนผมกับมาเยี่ยมญาติต่างจังหวัดเลย แม่บอกว่าเย็นนี้มากินข้าวด้วยกันนะจะทำกับข้าวไว้ให้โอ้นี่พึ่งรู้จักกันวันแรกเท่านั้นเอง คนพม่าในทวายใจดีจังเลย ผมก็ถามโจว่าจะพาผมไปแลกเงินที่ไหนโจก็บอกเดี๋ยวก่อน กำลังแลกให้ แล้วโจก็ถามว่าจะแลกเท่าไร ผมก็คิดว่าทำไมโจไม่พาไปธนาคารหรือที่รับแลกเงิน ปรากฏว่าภรรยาโจเอาเงินเป็นปึก ๆ เลยมาแลกให้ผมถามผมจะเอาเท่าไรเขาก็หยิบเงินพม่ามาแล้วบอกอัตราการแลกเปลี่ยนตอนนี้ให้ทราบ ซึ่งผมคิดว่าเขาไม่คิดโกงหรอก เพราะเขามองผมเป็นมิตรจริง ๆ ความรู้สึกผมมันบอกแบบนั้นครับ
แลกเงินเสร็จผมก็จะให้โจพาไปโรงแรม โจบอกให้ผมไปกับเขาเดี๋ยวเขาไปธุระแถวหาดมอมะกัน เดี๋ยวเขาจะพาไปเที่ยวทะเเลก่อนก็ได้ ผมก็รับปากทันทีเลย กำลังจะถามโจว่าจะไปไหนดี ไปยังไง ไปไหนก่อน เข้าทางผมเลย ผมไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับทวายมากนักนอกจากรู้ว่าเป็นเมืองเก่ากำลังจะเปลี่ยนไป เพราะเส้นทาง และท่าเรือน้ำลึกทวาย กำลังจะถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทที่ได้รับสัมปทานอิตาเลี่ยนไทย นั่นก็หมายถึงว่าทวายกำลังจะเจริญแล้ว
โจขับมาจากทวายถึงหมู่บ้านมอมะกันประมาณ 15 กิโลเมตร เห็นจะได้ จากนั้นลัดเลาะจากหมู่บ้านมอมะกันไม่ไกลก็เข้าถึงบริเวณชายหาดมอมะกัน ส่วนภาพแรกที่ผมได้เห็นหาดมอมะกันเอาจากความรู้สึกจริง ๆ เลยนะ เหมือนกับชะอำบ้านเราเลย ผมยังผิดหวังไปนิดว่าทะเลที่มอมะกันจะสวยเหมือนพวกตะรุเตา หรือสิมิลัน บริเวณริมหาดมอมะกันไม่มีร้านอาหารอะไรมากมายเหมือนชะอำ มีเป็นช่วง ๆ บางร้าน บางช่วงก็มีบังกะโลให้เช่า ริมทะเลมีโต๊ะอาหารเป็นโต๊ะม้าหินนั่งฟรีไม่เสียตังแบบชะอำบ้านเรา ผมเดินเล่น เดินถ่ายภาพ ริมทะเลอยู่พักหนึ่งก็เดินมาถามโจว่าปกติคนเยอะไหม โจบอกนี่คือเยอะแล้วสำหรับหาดมอมะกัน ผมถึงกับงงเลยเพราะคนน้อยมาก ๆ แต่สำหรับคนที่นี่บอกว่าเยอะแล้ว
โจนั่งคุยกับผมซักพักก็ชวนกันกินเบียร์พม่าซะแล้ว กินกันขวดเดียวพอ พร้อมกับกุ้งแช่น้ำปลาทวาย ผมถามโจว่าที่นี่ตำรวจพม่ามีตรวจแอลกอฮอล์ไหม โจบอกว่าไม่มี ผมคิดว่าท่าทางจะจริงเพราะคนในทวายส่วนใหญ่ค่าครองชีพต่ำ ตำรวจคงไม่มาตั้งด่านจับแบบเบี้ยไบ้รายทางหรอก ระหว่างคุยไปจิบเบียร์พม่าไปก็ฟินเลย เพราะเบียร์พม่ารสชาติดีไม่แพ้เบียร์ไทยบ้านเราเลย เวลาจะดื่มเบียร์เย็น ๆ ต้องแช่ตู้เย็นไว้อย่างเดียวเลย เพราะน้ำแข็งที่ทวายไม่มีนะครับ เวลาจะไปสั่งเป๊ปซี่ใส่น้ำแข็งเขาไม่ทำให้หรอกครับเพราะน้ำแข็งที่ทวายไม่มี ใครจะไปลงทุนทำก็ได้นะครับ ผมแนะนำว่ามีคนไทยเคยไปทำแล้วขาดทุน เพราะว่าไฟฟ้าในทวายไม่แน่นอนเดี๋ยวดับเดี๋ยวติด แต่ถ้าจะใช้เครื่องปั่นไฟไม่คุ้มค่าน้ำมันแน่นอนครับ ผมได้ข้อมูลนี้กับคนพม่าที่นั่งกินข้าวแกงทวายมาด้วยกัน ส่วนกับแก้มก็เป็นกุ้งแช่น้ำปลาพม่ารสชาติดีไม่แพ้เบียร์พม่าเลย
ผมบอกกับโจว่าถ้าผมจะกินกุ้งล็อบสเตอร์ร้านไหนมีขายแถวหาดมอมะกันเพราะได้ข่าวว่าที่นี่ล็อบสเตอร์ราคาถูก ช่วยพาผมไปทีผมจะไปกินตอนเย็นหรือไม่ก็วันพรุ่งนี้ ซักพักโจก็พาลัดเลาะหาดมอมะกันไปที่มีกุ้งลอบสเตอร์ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ร้านอาหารตรงที่โจพาไปมันเป็นที่เลี้ยงกุ้งลอบสเตอร์ ตอนที่ผมกำลังไปนั้นเขากำลังลังห่อกุ้งล็อบสเตอร์กับหนังสือ เพื่อจะนำไปขายต่อที่ย่างกุ้ง ก็ยังอดขำไม่ได้กุ้งราคาแพง ๆ ถูกห่อไปขายแบบนี้เลยเหรอปกติน่าจะมีการถนุถนอนหรือไม่ก็น่าจะมีการขนส่งที่ไม่ใช่แบบนี้ เอาเป็นว่าสิ่งที่ผมเห็นมันกับสิ่งที่ผมเห็นผิดคาดจริง ๆ แต่ดีใจที่ได้เห็นวิธีการแบบนี้ของคนเลี้ยงกุ้งลอบสเตอร์
โจยังพาผมลัดเลาะไปเที่ยวอีกอย่างต่อเนื่อง ไม่ไกลกันกันนักในหมู่บ้านมอมะกัน ก็มีบ่อน้ำร้อนทวาย ซึ่งที่นี่จะเป็นที่ล้างตัวจากการลงเล่นน้ำทะเล จากหาดมอมะกัน จึงไม่แปลกที่หนุ่มสาวจะมาอาบน้ำร้อนเล่นน้ำร้อนกันเป็นจำนวนหลาย ๆ คน
วันนี้จบทริปที่บ่อน้ำร้อนทวายก่อน เพราะผมยังหาที่พักไม่ได้ หลังกลับจากถึงเมืองทวาย ผมก็ให้โจพาไปหาโรงแรม ซึ่งตอนแรกโจจะพาผมไปโรงแรมที่เก่าสมัยอังกฤษปกครอง แต่ผมบอกว่าโรงแรมใหม่ ๆ ดีกว่าเพราะจะได้ไม่เสียวมากเวลานอนกลางคืน ขณะที่โจขับรถผ่านไปผมเห็นโรงแรมโกลด์เด้น เกสท์เฮ้าส์ เป็นโรงแรมใหม่ในทวายผมไม่ลังเล แล้วให้โจเข้าไปโรงแรมนี้ทันที ด้านในเป็นโรงแรมใหม่แถมราคาสำหรับผมรับได้ครับ เพราะมีความอำนวยสะดวกที่ครบครับ แถมห้องนพักก็ไม่น่ากลัวที่สำคัญ Wifire นี่แหละสำคัญสำหรับผมมาก เพราะผมต้องติดต่อกับคนทางฝั่งประเทศไทย โดยที่ไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้เนื่องจากราคาซิมแพงมาก และราคาค่าโทรแพงมาก ๆ จนผมคิดว่าแพงเวอร์ คนสัมปทานการทำโทรศัพท์ในพม่าคงรวยเละ
โจติดต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างในทวาย พอพูดไทยได้นิดหน่อย ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าแกจะทำหน้าที่ให้ผมได้ที่ผมต้องการหรือเปล่าผมขอเหมาเขาเลยในการท่องเที่ยวในทวาย ผมไม่รู้ว่าแพงหรือถูกสำหรับการเช่ามอเตอร์ในระหว่างวันพรุ่งนี้ จนถึงช่วงเช้าของวันมะรืน ในราคา 28,000 จ๊าด ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็เกือบ ๆ 1,000 บาท แต่เท่าที่ผมรู้จากตรีทวายทัวร์เฉพาะค่าไกด์นำเที่ยวในทวายก็วันละ 1,000 บาท และโจก็บอกไม่แพงหรอก ผมจึงให้พี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างมารับผมตี 4 เพื่อพาไปเที่ยวตลาดสดปลาทะเล และที่ ๆ เขารู้จักทั้งวันจนถึงเย็น (ไม่รู้ว่าเขาจะลุยเหมือนผมหรือเปล่า) แต่สำหรับคืนนี้ผมจะพาดูบ้านเมืองในทวายประมาณช่วงหัวค่ำก่อน แล้วเช้า ๆ ค่อยมาดูกันต่อว่าผมจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างซึ่งผมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน
<< อ่านต่อหน้า 2 >>
|