แพ็คเกจทัวร์

www.rodturubjang.com
บริการให้เช่ารถตู้ngv รุ่นใหม่ล่าสุด
พนักงานขับรถชำนาญเส้นทาง
บริการดี ไม่มีเบี้ยวงาน
- ดูหนังฟังเพลง DVD MP3 VCD
- เบาะปรับเอนนอน 14 ที่นั่ง
- ประกันภัยชั้นหนึ่งทุกที่นั่ง
- ทีมงานบริการด้วยความประทับใจ
 
โต๊ะจีนดีดี โต๊ะจีนนครปฐม โต๊ะจีนราคาถูก
โต๊ะจีนดีดี.com
โต๊ะจีนอร่อย สะอาด ปลอดภัย
เริ่มต้นที่ 999 บาท
โต๊ะจีนนครปฐม โต๊ะจีนดีดี
พ า เ ที่ ย ว   ช ว น ส นุ ก ไ ป ก ั บ เ ร า a n n a o n t o u r . c o m
ข้อมูลทั่วไปกัมพูชา สถานที่ท่องเที่ยวกัมพูชา ที่พักกัมพูชา ร้านอาหารกัมพูชา การเดินทางไปกัมพูชา แผนที่กัมพูชา
ท่องเที่ยวกัมพูชา นครวัด นครธม ปราสาทตาพรหม เสียมเรียบ ตลาดโรงเกลือ แบบชิว ๆ
ในช่วงเวลาที่ประเทศไทย กับประเทศกัมพูชา มีปัญหาเรื่องพรมแดน ทำให้การท่องเที่ยวและการประกอบอาชีพแถวชายแดนไทยกัมพูชาไม่คึกคัก และไม่น่าท่องเที่ยวเท่าที่ควร จึงทำให้ดูเงียบเหงาไปถนัดตา แต่มีเพื่อนป้อมปี่คนหนึ่งเป็นคนไทยที่เกิดในจังหวัดสุรินทร์ ไปทำธุรกิจในเมืองเสียมเรียบประเทศกัมพูชา ชื่อพี่นพดล โทรมาคุยสอบถามสารทุกข์สุขดิบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนเขาสบายดี และเบอกว่าที่เมืองเสียมเรียบภายในประเทศกัมพูชาไม่มีอะไรสามารถเข้ามาเที่ยวได้เลย เพราะที่เมืองเสียมเรียบไม่มีอาชญากรรม ปลอดภัยแน่นอน เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวจริง ๆ เลยอยากให้พวกเราเดินทางมาเห็นด้วยตาตัวเอง ส่วนที่พักโรงแรมสะอาดแน่นอน นอนหลับสบายไม่ต้องกังวล ส่วนร้านอาหารก็มีมากมาย อาหารก็มีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นไทย จีน เกาหลี และอาหารแถบยุโรป รับรองไม่แตกต่างจากบ้านเราเท่าไรนัก
 
ป้อมปี่จึงโทรมาชวนผม ยูมิโกะ และแก้มป่อง ตอนแรก ๆ ก็ไม่มีใครกล้าตอบตกลงกับป้อมปี่ครับ เพราะมีคนรอบข้างห่วงเรื่องความปลอดภัย และฟังจากข่าวรายวันก็ยังไม่น่าไว้วางใจเท่าที่ควร แต่พี่นพดลรับรองว่าภายในประเทศไม่เหมือนกับแถบชายแดน ไม่ต้องกลัวให้ลองมาก่อนถ้ากลับไม่ได้ก็มาอยู่บ้านพี่นพดลซักเดือนก็ไม่มีปัญหา ผมเลยตอบตกลงแบบไม่เต็มใจว่า "ลองไปดูก็ได้สำหรับนักเดินทางอย่างเรา"
เราเตรียมเสื้อผ้าเพียงชุดเดียว เพราะก็ว่าไปค้างเพียงคืนเดียวก็เพียงพอแล้ว เพราะไปแค่เสียมเรียบเท่านั้น ส่วนเอกสารที่ลืมไม่ได้ก็คือพาสปอร์ต ส่วนวีซ่าไม่ต้องทำแล้ว เลยทำให้การเดินทางเที่ยวประเทศกัมพูชาสะดวกขึ้น
 
พวกเราออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณตี 4 พวกเราใช้เวลาเดินทาง จากกรุงเทพไปทาง อ.ฉะเชิงเทรา เลี้ยวขวาไปทาง อ.พนมสารคราม จากนั้นก็เลี้ยวไปทางเขาหินซ้อน มุ่งหน้าสู่ จ.สระแก้ว ขับตรงไปยัง อ.อรัญประเทศ ก็จะถึงตลาดโรงเกลือ ประมาณตอน 9 โมงเช้า ส่วนร้านอาหารในบริเวณตลาดโรงเกลือหาทานยากนิดหนึ่ง พวกเราเลยแวะหาอะไรทานในปั้มก่อนเข้าถึงตลาดโรงเกลือ


ในการเดินทางครั้งนี้พวกเราได้รับความสะดวกสบายจาก บ.สไมล์ไทยอีโคทัวร์ จำกัด ในการเดินทางเข้าไปพร้อมกับคณะทัวร์ ที่มากับบริษัท พวกเรานำรถไปฝากที่จุดรับฝากรถ โดยมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทรอบริการอยู่ที่หน้าด่านฝั่งไทยเจ้าหน้าที่เป็นคนไทยแนะนำให้พวกเรากรอกเอกสาร และเข้าไปต่อแถวยื่นพาสปอร์ตเองที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองไทยบ้านคลองลึก จากนั้นจะมีไกด์กัมพูชายืนรอหน้าด่านปอยเปต เมื่อเข้ามาแล้วไกด์ก็พาพวกเราไปยื่นเอกสารที่ฝั่งตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา หลังจากที่ได้สแตมป์พาสปอร์ตแล้ว ไกด์ก็พาคณะทัวร์รวมถึงพวกเราขึ้นรถเมล์ท้องถิ่นกัมพูชา ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที รถก็ไปส่งที่ท่ารถเมล์ประจำทาง เพื่อเปลี่ยนไปนั่งรถบัสทัวร์กัมพูชา เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองเสียมเรียบ





ระหว่างการเดินทาง ไกด์พูชาแนะนำตัวเอง จากนั้นก็ให้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับประเทศกัมพูชามากมาย ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ระหว่างอยู่บนรถทัวร์ ไกด์กัมพูชาเล่าให้ฟังว่าเขาอายุ 33 ปี แต่มีการทำสงครามมา 5 สมัย จึงทำให้ประเทศกัมพูชาไม่เจริญ เพราะมัวแต่สู้รบกันระหว่างประเทศ ทำให้การคมนาน การศึกษา อาชีพของชาวกัมพูที่มองเห็นสองข้างทาง ยังไม่เจริญเท่าที่ควร อาชีพชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม การเดินทางจากปอยเปตมาถึงเมืองเสียมเรียบก็พึ่งลาดยางถนนใหม่ ซึ่งเมื่อก่อนเป็นทางลูกรังการเดินทางไปมาไม่สะดวกใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงซึ่งระยะทางประมาณ 100 กว่ากิโลเมตรเอง แต่ปัจจุบันถนนได้ลาดยางแล้ว ทำให้ใช้เวลาในการเดินทางจากเมืองปอยเปต มายังเมืองเสียมเรียบใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งเอง ไกด์ยังบอกอีกว่าสำหรับคนที่มาเล่นการพนันที่ด่านปอยเปตนั้นไม่ต้องใช้พาสปอร์ต ใช้แค่บอเดอร์พาสก็สามารถเข้ามาเล่นการพนันได้แล้ว (ไม่แนะนำครับ เพราะการพนันเป็นสิ่งที่ทำให้คนหมดตัวได้ง่าย ๆ ครับ) ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะเข้ามาเที่ยวในประเทศกัมพูชาปัจจุบันยกเลิกการทำวีซ่าแล้วครับ แค่ใช้พาสปอร์ตอย่างเดียวก็สามารถเข้าท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชาได้แล้ว




พวกเราเดินทางมาถึงเมืองเสียมเรียบ ที่โรงแรมซิตี้อังกอร์ ตอนประมาณเกือบบ่ายโมง จากนั้นก็เข้าเช็คอินน์ พวกเรานำกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นไปบนห้องพัก ก็ประทับใจมากเพราะที่พักสะอาดมาก เครื่องอำนวยความสะดวกก็เพรียบพร้อม ห้องน้ำก็กว้างสะอาดพร้อมทุกอย่าง เตียงนอนก็สะอาดใหม่น่านอน เราใช้เวลาสั้น ๆ บนห้องพักในช่วงนี้ ส่วนคืนนี้คงนอนหลับสบาย

หลังจากเก็บของไว้บนห้องพักแล้ว พวกเราก็ลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรมซิตี้อังกอร์ อาหารก็เป็นอาหารไทยครับ เพราะที่โรงแรมนี้สามารถเลือกอาหารได้ว่าจะเป็นอาหารประเภทไหน มื้อกลางวันนี้มีซี่โครงหมูทอด ซุปปลา ปลาหมึกผัดผักรวม ผัดผักน้ำมันหอย ยำ ปลากระพงราดซอส และก็ผลไม้ รสชาติใช้ได้ครับ ใกล้เคียงกับฝีมือคนไทย มื้อนี้ก็อิ่มอร่อยไปหนึ่งมือ






หลังจากอิ่มแล้วไกด์ก็แนะนำโปรแกรมการเดินทางสำหรับวันนี้ ได้แก่ เดินทางเที่ยวชมโตนเลสาบ และชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ปราสาทพนมบาเค็ง พวกเราใช้เวลาเดินทางประมาณโรงแรมอังกอร์ซิตี้ ประมาณ 45 นาที ก็ถึงท่าเรือโตนเล โตนเป็นภาษาเขมร หมายถึง แม่น้ำ สาบเป็นภาษาเขมร หมายถึง จืด โดยโตนเลสาบเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และไกด์ยังบอกอีกว่าเมื่อก่อนทุกตารางเมตรของโตนเลสาบ จะมีปลามากมายทุกตารางเมตร แค่พายเรือไปเฉย ๆ ปลาก็กระโดดขึ้นมาอยู่บนลำเรือ แต่ปัจจุบันไม่มีแล้วเพราะการเข้ามาหากิน และทำประมงของชาวเวียดนาม และชาวกัมพูชา มีแต่การจับไม่มีการอนุรักษ์ และรัฐบาลกัมพูชาไม่ได้เข้ามาดูแลเท่าที่ควร จึงทำให้ปลาในโตนเลสาบหมดไปอย่างรวดเร็ว


เมื่อลงจากรถเจ้าหน้าที่ก็แจกตั๋วขึ้นเรือ โดยต้องเดินลงไปบริเวณท่าจอดเรือ ไกด์บอกว่าท่าเรือโตนเลได้ทำการขุดขยายร่องน้ำใหม่ มิฉะนั้นน้ำจากโตนเลสาบก็จะมาไม่ถึงเรือก็จะแล่นไม่ได้เพราะน้ำจะตื้นมาก เนื่องจากช่วงที่เราไปเป็นช่วงฤดูร้อนน้ำจึงน้อย ระหว่างการร่องเรือพวกเราก็ได้สัมผัสกับบรรยากาศสองฝั่งคลอง ก็เป็นวิถีชีวิตของชาวกัมพูชา และชาวเวียดนาม แต่ที่สังเกตุได้ว่านักท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชาเยอะมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี นักท่องเที่ยวชาวจีน ส่วนนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรปก็มีไม่ใช่น้อย ไกด์บอกว่าเมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอันตราย เพราะทางกัมพูชาไม่อยากทำให้เสียชื่อเมืองท่องเที่ยว ไกด์ยังบอกอีกว่าช่วงนี้เป็นช่วงหน้าโลซีซั่น ถ้าเป็นช่วงไฮซีซั่น เรือต้องรอคิวนาน คนจะแน่นมาก (ผมว่าช่วงโลซีซั่นของเขาคนยังเยอะพอ ๆ กับไฮซีซั่นแถวบ้านเรา) เรือล่องมาเข้าใกล้กับโตนเลสาบ ก็มีเรือของชาวเวียดนามมาตีคู่ มีเด็กเอางูมาแสดง บ้างก็เอาเรือมาเทียบแล้วก็กระโดดขึ้นเรือมาขายน้ำอัดลมกระป๋อง แปลกดีครับ






จนเรือวิ่งมาถึงแพที่จะขึ้น ปรากฏว่ามีเด็กเวียดนามมากมายมารออยู่ประมาณ 10 กว่าคน รวมถึงผู้ใหญ่บางคนที่พาลูกมานอนในเรือ เพื่อขอเงิน หรือขนม ไกด์แนะนำว่าไม่ต้องให้หรอกหากให้เด็กจะมารุมขอมากขึ้น และหากมีเด็กมาขอเยอะขึ้นเท่าไร ก็จะเป็นการสร้างผลกระทบในทางลบต่อภาพพจน์ของการท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชา ไกด์พาลงแพที่มองดูว่าเป็นร้านค้าขนาดใหญ่ มีทั้งของที่ระลึก อาหาร จำหน่าย มีบ่อจระเข้ บ่อปลาเลี้ยงอยู่บนแพ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวชมโตนเลสาบบนแพตนเอง ส่วนชั้นสองของแพนี้ก็สามารถขึ้นไปชมวิวโตนเลสาบจนสุดลูกหูลูกตา จนลับขอบฟ้าเหมือนกับทะเลดีดีเลยครับ ด้านบนแพยังมองเห็นแพชาวเวียดนาม และแพชาวกัมพูชา ที่ตั้งอยู่บนโตนเลสาบเป็นหย่อม ๆ โดยประชาชนที่อาศัยอยู่บนแพส่วนมากก็ประกอบอาชีพประมง รองลงมาก็จะเป็นการค้าขาย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมโตนเลสาบ





พวกเราใช้เวลาอยู่ในโตนเลสาบประมาณ 2 ชั่วโมงก็ต้องเดินทางกลับไปขึ้นรถที่ท่าเรือต่อ เพื่อเดินทางไปชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ปราสาทพนมบาเค็ง ซึ่งตั้งอยู่บนบนภูเขา ไกด์พาพวกเรามุ่งหน้าไปยังจุดบริการนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมนครวัดนครธมก่อน เนื่องจากคนที่จะเข้ามาเที่ยวนครวัดนครธมต้องมาต่อคิวถ่ายภาพ เพื่อทำบัตรเข้าชมก่อนในวันนี้ก่อน พรุ่งนี้ถึงจะเข้าชมนครวัดนครธมได้




ไกด์ก็พาพวกเราขึ้นรถทัวร์ เพื่อเข้าไปชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าบนปราสาทพนมบาเค็ง ที่ซึ่งไปทางเดียวกับเส้นทางที่จะไปนครวัด รถวิ่งมาณ 10 นาที ก็มาถึง ตีนเขา พวกเราต้องลงจากรถทัวร์และต้องเดินเท้าขึ้นไปบนยอดเขาอีกประมาณ 45 นาที ก็ถึงยอดเขา ซึ่งด้านบนเป็นปราสาทเก่าแก่ ทางขึ้นปราสาทนั้นค่อนข้างชัน สูง และมีหลายขั้น ไม่สามารถขึ้นไปเร็วได้ แต่เมื่อมองขึ้นไปยังบนปราสาทพวกเราก็เห็นนักท่องเที่ยวเต็มไปหมดรอชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า พวกเราขึ้นไปด้านบนแต่ไม่ทันกับพระอาทิตย์ตก แต่ก็ได้บรรยากาศอันครึกครื้น เพราะนักท่องเที่ยวต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน และถ่ายภาพวิวบนตัวปราสาทแถบทุกจุดบนตัวปราสาท พวกเรานั่งชมธรรมชาติป่าเขา ด้านบนปราสาทซักพักก็เดินทางลงจากตัวปราสาท เพราะทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ให้ค้างคืน หรืออยู่เกิน 6 โมงเย็น






หลังจากขึ้นรถ ไกด์ก็พาคณะไปทานอาหารเย็นต่อที่ร้านอาหาร โตนเลแม่โขง เพื่อทานอาหารเย็น รวมทั้งชมการแสดงศิลปะพื้นบ้านของชาวกัมพูชา อาหารที่พวกเราทานมีอยู่หลายอย่าง อาทิอาหารไทย อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี อาหารของคนอิสลาม และอาหารของนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรป อาหารก็เป็นแบบบุฟเฟ่ ตักเสร็จก็ไปนั่งทานอาหารใกล้ ๆ บนเวที พวกเราเพลิดเพลินกับการกิน และชมการแสดงพักใหญ่ จนพุงกาง ไกด์ก็พาขึ้นรถแวะไปเที่ยวถนนคนเดินในเมืองเสียมเรียบ และถนนข้าวเหนียว ก่อนเข้าโรงแรม ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมอังกอร์ซิตี้ประมาณ 3 กิโลเมตร









ถนนคนเดินเสียมเรียบ และถนนข้าวเหนียว ไม่แตกต่างจากถนนคนเดินในประเทศไทยครับ มีของกิน ของใช้ ของฝาก ของที่ระลึกของชาวกัมพูชา เสื้อผ้า ร้านอาหาร พกวเราเดินซื้อของฝากได้เป็นพวกกุญแจ และกรรไกรตัดเล็บที่มีโลโก้ของนครวัดนครธม ในราคาแพ็คละ 100 บาท หนึ่งแพ็คจะมีสินค้าอยู่ 6 ชิ้นด้วยกัน พวกเราใช้เวลาเดินทางเที่ยวชมไม่นาน ก็เดินทางกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมซิตี้อังกอร์







รุ่งเช้าพวกเรานัดเจอกันที่ห้องอาหารของโรงแรมซิตี้อังกอร์ตอน 7 โมงเช้า และจะเดินทางพร้อมคณะทัวร์เวลา 08.00 น. เพื่อเข้าไปเทียวชมนครวัดนครธม ปราสาทบายน ปราสาทตาพรมในช่วงเช้า หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว ไกด์ก็มารอรับคณะทัวร์ตามเวลา พวกเราขึ้นรถทัวร์พร้อมกับคณะทัวร์ จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังจุดบริการเข้าชมนครวัดนครธม เจ้าหน้าที่ทำการตรวจบัตรนักท่องเที่ยวทุกคนแล้ว ก็อนุญาตให้รถเข้าไปเที่ยวยังนครวัดเป็นจุดแรกก่อน


นครวัด สร้างขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในรัชสมัย พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ซึ่งครองราชย์อยู่ในช่วง พ.ศ. 1650-1693 ซึ่งขณะนั้นศาสนาพราหมณ์ นิกายไวษณพนิกาย นับถือพระวิษณุเป็นใหญ่ อยู่ในช่วงรุ่งเรืองอยู่ในอาณาจักรขอม
พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 จึงโปรดให้สร้างนครวัด เพื่อบูชาพระวิษณุ และนอกจากนั้นแล้ว ก็เพื่อให้เป็นที่ เก็บพระศพของพระองค์ เมื่อยามสิ้นพระชนม์แล้วด้วย ดังนั้น นครวัดจึงแตกต่างกับปราสาทอื่นๆ ตรงที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทิศของผู้ตายแทนทิศตะวันออก พวกเราเดินชมภายในตัวนครวัดแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต และคิดว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนชาวบ้านทั่วไปคงเข้าเดินออกไม่ได้ ช่วงที่พวกเราเดินเที่ยวชมปราสาทนครวัดอากาศค่อนข้างร้อนแนะนำว่าให้ติดร่มหรือหมวกไปด้วย เพราะช่วงเที่ยงจะร้อนมากกว่านี้ พวกเราเดินเที่ยวชมประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็เดินทางต่อไปยังนครธม








นครธม เป็นมืองหลวงแห่งสุดท้ายและเมืองที่เข้มแข็งที่สุดของอาณาจักรขะแมร สถาปนาขึ้นในปลายคริสต์ศวรรษที่ 12 โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ 9 ตารางกิโลเมตร อยู่ทางทิศเหนือของนครวัด ภายในเมืองมีสิ่งก่อสร้างมากมายนับแต่สมัยแรกๆ และที่สร้างโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และรัชทายาท ใจกลางพระนครเป็นปราสาทหลักของพระเจ้าชัยวรมัน เรียกว่า ปราสาทบายน และมีพื้นที่สำคัญอื่นๆ รายล้อมพื้นที่ชัยภูมิถัดไปทางเหนือ ทางเข้าด้านใต้ ที่มีลักษณะเป็นหน้า 4 หน้า ก่อนจะเข้าสู่บริเวณนี้ จะเป็นแถวของยักษ์ (อสูร) ทางด้านขวา และเทวดาทางด้านซ้าย เรียงรายแบกพญานาคอยู่สองข้างสะพาน นครธมมีพื้นที่กว้างมากจนไกด์บอกว่าจะพาเที่ยวชมปราสาทบายนเท่านั้น ใช้เวลาเดินเที่ยวชมประมาณ 1 ชั่วโมงก็เดินทางต่อ เพราะถ้าเดินเที่ยวนครธมทั้งหมดวันหนึ่งก็ไม่พอ จากนั้นไกด์ก็พาไปเที่ยวในช่วงเช้าต่อที่ปราสาทตาพรหม


ปราสาทตาพรหม สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1729 เป็นปราสาทหินในยุคท้าย ๆ ของอาณาจักรเขมร ลักษณะเด่นของปราสาทตาพรหม คือมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นคลุมตัวปราสาทเป็นจำนวนมาก บางต้นก็ช่วยยึกตัวปราสาทได้ดี บางต้นก็ทำให้ตัวปราสาทพังลงมา แต่ปัจจุบันทางกัมพูชาได้ทำการบูรณะบางส่วนไว้บ้างแล้ว พวกเราเดินชมศิลปะที่ธรรมชาติสร้างขึ้นบวกกับสิ่งที่มนุษย์เคยสร้างขึ้น พวกเราประทับใจการการเดินทางมาชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในทริปนี้ครับ เพราะถือว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับประเทศไทย เดินทางไม่ไกลมากนัก เส้นทางการเดินทางมาก็สะดวกมากขึ้นแล้ว พวกเรา หวังว่าคงมีข้อสรุปที่ดีเรื่องชายแดนไทยกัมพูชาแล้ว อะไร ๆ ก็คงจะดีขึ้น








ช่วงเที่ยงพวกเราไปทานอาหารที่ร้านอาหารโตนเลสาบ อาหารก็มีมากมายหลายประเภทเช่นกันครับ ไทย จีน เกาหลี และอาหารแถบยุโรป รสชาติอาหารดีครับ ไม่เพี้ยนจากบ้านเราเท่าไรครับ อร่อยดี พวกเราใช้เวลาทานอาหาร 1 ชั่วโมงก็ออกเดินทางต่อ แต่ว่าบ่ายนี้ไม่ได้ไปเที่ยวต่อกับคณะทัวร์ครับ ซึ่งคณะทัวร์จะเดินทางไปชมปราสาทพนมปุเรน และชมศิวลึงค์ในสายน้ำพนมปุเรน ส่วนพวกเราจะแวะไปเที่ยวบ้านของพี่นพดล คนที่เชิญชวนพวกเราให้มาเที่ยวที่เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา
หลังจากที่ได้พูดคุย และใช้เวลาในการพบปะกับพี่นพดล จนถึงเวลาประมาณ 3 โมงเย็น พวกเราก็กลับไปขึ้นรถเดินทางกลับพร้อมคณะทัวร์ โดยใช้เวลาถึงด่านประมาณ 5 โมงเย็น ก็ร่ำลาไกด์กัมพูชา ก่อนจะยื่นเรื่องที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา และด่านตรวจคนเข้าเมืองไทย ก่อนกลับก็แวะซื้อของฝากคนทางบ้านที่ตลาดโรงเกลือก่อนเดินทางถึงบ้านด้วยความประทับใจ เอาไว้พบกันใหม่ครับ
ทีมงาน annaontour.com
สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศกัมพูชา
นครวัดนครทม
 
วีดีโอท่องเที่ยว

Google


  ทั่วโลก  annaontour

 
www.เช่ารถตู.com
เช่ารถตู้ van tour thailand 租面包车旅游泰国
เช่ารถตู้ คนไทยเชื่อถือได้
บริการดีไม่ทิ้งงาน
van tour thailand
租面包车旅游泰国
 
 
 
ข้อมูลการท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา
แผนที่ประเทศกัมพูชา
| กันดาล | ไพลิน | แกบ | กระแจะ | กัมปอต | กำปงสปือ | สีหนุวิลล์ | กำปงธม | มณฑลคีรี | พระวิหาร | โพธิ์สัตว์ | พระตะบอง | กำปงชนัง |
| กำปงจาม | เกาะกง | รัตนคีรี | พนมเปญ | เปรยแวง | บันเตียเมียนเจย | อุดรมีชัย | ตาแกว | สวายเรียง | สตึงแตรง | เสียมเรียบ |
ประสบการณ์การเดินทางไปเที่ยวประเทศกัมพูชาของผมอันแน่ออนทัวร์ เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกที่หลายคนยังไม่รู้ หรือยังเข้าใจผิด ๆ เหมือนกับผมในสมัยก่อน เพราะหากใครพูดถึงไปเที่ยวกัมพูชา หรือเขมรนั้น ทุกคนคิดว่าน่ากลัว ระวังจะโดนหลอก ระวังโดนขโมยทรัพย์สิน ระวังจะถูกทำร้ายนะ ถ้าจะไปเที่ยวต้องไปกับทัวร์เท่านั้นถึงจะปลอดภัยเพราะถนนหนทางไม่ค่อยดีด้วย จะกินอยู่อย่างไง ของเขมรเขาแรงนะระวังด้วย ผมก็กลัวเลยซิ การเดินทางเข้าไปยังประเทศกัมพูชาผมครั้งแรกก็ยังไม่กล้าไปคนเดียวเพราะพูดภาษากัมพูชาไม่ได้เลย ภาษาอังกฤษก็พูดงูงูปลาปลา ดังนั้นผมจึงขออาศัยทัวร์เขาไปครั้งแรก (ไม่ได้เป็นลูกทัวร์ไปนะครับ ไปเป็นเด็กหิ้วกระเป๋าให้เขาตะหาก) แต่การ์เดินทางไปกับทัวร์นั้น มันก็สบายดี แต่มันไม่ได้อรรถรสหรือฟิวการท่องเที่ยวแบบอันแน่ออนทัวร์ เพราะสาถนที่ไปก็ได้ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่ทัวร์พาไป โดยจังหวัดแรกที่ผมได้เยือนก็คือจังหวัดเสียมเรียบหรือเสียมราษของกัมพูชาเท่านั้น แต่การท่องเที่ยวแบบนี้ไม่ใช่ตัวผมเลยกลับมาจากกัมพูชาครั้งนี้ผมคิดว่าเดี๋ยวผมต้องแบคแพคไปเองดีกว่า ผมจึงตัดสินใจเดินทางด้วยตนเองโดยที่ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนดี เพราะที่กัมพูชาคนไทยน้อยคนนักที่จะเดินทางไปเที่ยวแบบลุย ๆ เวลาหาข้อมูลการเดินทางทางสื่อทั่วไปก็น้อยมาก แต่สิ่งเหล่านี้ก็ห้ามผมไม่ได้ด้วยความอยากลองอยากเห็นเลยตัดสินใจว่าผมจะเริ่มต้นจากจังหวัดใกล้ ๆ ประเทศไทยก่อนดีกว่าเพราะหากมีอะไรจะได้กลับเข้าประเทศได้ง่าย โดยที่ผมยังไม่มีจุดหมายไปที่ไหนเลย ด่านที่ผมใช้เข้ากัมพูชาในตอนแรก ๆ คือด่านปอยเปต เพราะที่นี่เป็นด่านสากลสุดแล้วสำหรับการเข้าไปยังประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะเวลาเข้าไปเราจะเจอกับคนไทยที่ชอบไปเสี่ยงดวงที่ปอยเปต กับเจอคนไทยที่ซื้อทัวร์ที่รออยู่หน้าด่านทำให้ผมอุ่นใจได้บ้าง แต่หลังจากทำเอกสารเข้ากัมพูชาแล้ว ผมก็ไปยืนงงอยู่หน้าด่านปอยเปตว่าจะไปไหนดี เพราะคนไทยเลี้ยวเข้าคาสิโนไปหมดแล้ว ส่วนคณะทัวร์ก็มีไกด์กัมพูชามารับไป ผมยืนงงไม่รู้จะเริ่มขึ้นรถที่ไหน หรือจะทำอะไรก่อนดี ไม่เกิน 5 นาทีแค่นั้นแหละก็มีคนกัมพูชามาล้อมหน้าหลังเพื่อจะให้เราเดินทางไปกับเขา หรือพยายามเกลี้ยกล่อมให้ใช้บริการเขา ซึ่งครั้งแรก ๆ ผมก็โดนหลอกครับ เพราะไม่รู้อะไรเลย แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์สำคัญสำหรับไปเที่ยวกัมพูชา (ครั้งหลัง ๆ เวลาเข้ากัมพูชาไม่ได้กินผมแล้วครับผมรู้ทัน) แต่เป็นเรื่องที่โชคดีของผมเช่นกันที่ได้ข้อมูลจากไกด์อาสาหน้าด่านแนะนำที่เที่ยวให้ไปพะตะบอง โดยที่เขาอาสาหาที่พักหาไกด์ที่นั่นให้แต่ผมกะว่าไปลุยเอาดาบหน้าดีกว่าทั้ง ๆ ที่ไม่มีข้อมูลอะไรอยู่ในมือเลย หลังจากที่ผมเดินทางด้วยรถประจำทางไปถึงพะตะบองแล้วผมก็ได้เจอกับมอเตอร์ไซด์รุ่นน้องที่เคยมาทำงานในไทย แค่มองตาเขาผมก็รู้เลยว่านี่แหละคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ผมเที่ยวกัมพูชาได้ทั่วประเทศกัมพูชา ตั้งแต่นั้นมาผมก็เริ่มเที่ยวกัมพูชา โดยใช้รถประจำทางและมอเตอร์ไซค์รับจ้างคนนี้ที่เราสนิทกันจนเหมือนกับว่าเป็นเพื่อนกันเลยไปแล้ว และทุกวันนี้ผมเดินทางกัมพูชาเกินครึ่งประเทศแล้ว ภาษากัมพูชาที่ผมรู้ก็เริ่มดีขึ้นมาก และก็เริ่มเรียนรู้วัฒนธรรมของคนกัมพูชาซึ่งคล้ายกับคนไทยเราไม่น้อย และรู้ว่าที่กัมพูชาไม่น่ากลัวเท่ากับที่หลาย ๆ คนกลัว ผมจึงตั้งใจว่าจะเดินทางเที่ยวไปจนทั่วประเทศกัมพูชาให้ได้เร็ว ๆ นี้
เขื่อนตำหนักอำไพ จังหวัดโพธิ์สัตว์ damnakampil dam เขื่อนตำหนักอำไพ จังหวัดโพธิ์สัตว์
เป็นเขื่อนที่น้อยคนนักที่จะได้รู้จัก ยิ่งสำหรับคนไทยแล้วผมบอกได้เลยว่าถามใคร ใครก็ไม่รู้คือเขื่อนอะไรอยู่ที่ไหน ผมเลยอยากจะแชร์ประสบการณ์การเดินทางมาที่เขื่อนนี้ว่ามันสุดยอดมากเลย เอาแบบว่านั่งมอเตอร์ไซค์ตูดด้านก็ว่าได้ ผมมากับดามอเตอร์ไซค์เขมรที่รักกันเหมือนพี่น้อง เริ่มต้นมาจากจังหวัดพะตะบองเที่ยวไปเรื่อยจนถึงจังหวัดโพธิสัตว์ โดยการเที่ยวของผมจะไปถามชาวบ้าน หรือไปตามทางเห็นอะไรน่าสนใจก็จะไป แต่เส้นทางมาที่เขื่อนตำหนักอำไพ เราได้ถามคนในพื้นที่ว่าที่ไหนน่าเที่ยว และไปไม่ไกล เขาก็บอกไปทางนั้นทางนี้แล้วไปถามคนข้างหน้าต่อ ถามทำไมผมรู้เพราะคนที่ผมถามพูดไทยได้ชัดแจ๋วเลย ไปไม่ยากแต่ที่ไหนได้ใครจะไปเชื่อถ้ามาตามเส้นทางหลักถึงเขื่อนตำหนักอำไพไปนานแล้ว แต่เส้นที่ผมมาเขาบอกเป็นทางลัดตั้งหลายกิโลเมตร ให้วิ่งเลาะคลองชลประทานไปต้องบอกก่อนว่าคลองชลประทานในกัมพูชาตอนนี้ มันเหมือนกับคลองบ้านเราที่ใช้คลองเป็นเส้นทางคมนาคม ดังนั้นถนนที่ผมขี่มอเตอร์ไซค์มากับดาเป็นทางคันนา แถมมีหลุมบ่อตลอดเส้น ไอ้ใจก็กลัวรถยางจะรั่ว หรือว่ารถจะเสีย เพราะว่าไม่มีสัญญาณโทรศัพท์กับบ้านคนเลย มีแต่ทุ่งนากับท้องฟ้าเราได้แต่ขับเลาะคลองและภาวนาให้ไปเจอเขื่อนตำหนักอำไพเร็ว ๆ ทีเถอะ เราเดินทางไปจนสุดทางไม่รู้ว่ากี่กิโลแต่รู้ว่ามันนานมาก นานจนก้นผมระบมมาก ๆ เลย จนมาถึงเขื่อนตำหนักอำไพ ผมบอกได้เลยว่าที่นี่ค่อนข้างนสมบูรณ์มาก แหล่งน้ำของเขา ธรรมชาติของเขามันยังครบอยู่ ไม่มีคนมาเที่ยวช่วงนี้มีแต่คนมาหาปลาก็หลายคน บางคนใช้เบ็ด บางคนใช้แห บางคนใช้เครื่องมือดัก และผมก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปสอดรู้สอดเห็นร่วมแจมดูเขาหาปลาด้วย มันสุดยอดมากเลยผมไม่รู้ว่าที่นี่สมบูรณ์ขนาดนี้ ผมจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ผมลงไปจับปลาในคลองก็เจอนแบบนี้เลย ผมเห็นคนกัมพูชาเหวี่ยงแหทุกครั้งจะได้ปลาหลายตัว ส่วนปลาที่เห็นผมไม่ค่อยได้เห็นเลยในประเทศไทยระยะหลัง ๆ ผมเดินเล่นรอบ ๆ เขื่อนตำหนักอำไพแต่ไม่มีร้านค้าซักกะร้านเลย สอบถามชาวบ้านได้ความว่าคนจะมาเที่ยวเยอะก็ช่วงสงกรานต์ เยอะจนคนแน่นไปหมด แต่ไงมันผิดกับวันนี้ที่ผมได้เห็น แต่ผมก็เห็นรูปป้ายโฆษณาที่เขาเชิญชวนให้มาเที่ยว ว่าเวลาช่วงหน้าท่องเที่ยวคนจะเยอะจริง ๆ เอาเป็นว่าให้ลองมาดูแล้วจะรู้ว่าธรรมชาติในจังหวัดโพธิสัตว์ของกัมพูชายังสมบูรณ์อยู่มากเลย
ตลาดเสียมเรียบ จังหวัดกันดาล
เป็นตลาดเล็ก ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดกันดาล มีขนาดของตลาดไม่ใหญ่แต่ความน่าสนใจของตลาดที่นี่คือ เป็นตลาดชาวบ้านของแท้ เพราะตลาดมีร้านค้าตั้งอยู่ติดกับชายคาบ้านในหมู่บ้านเสียมเรียบเลย หรือบางร้านค้าก็เอาใต้ถุนบ้านเป็นที่ตั้งร้านค้าเพราะง่ายต่อการเก็บของ ส่วนวิถีชีวิตชาวบ้านในตลาดเสียมเรียบก็เรียบง่าย เพราะขายของราคาไม่แพงมีตั้งแต่พืชพักสวนครัว ไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว ปลา ทุกอย่างเอามาแขวนให้เห็นเป็นตัว ๆ ผมมีโอกาสได้ชิมขนมครกแบบกัมพูชาร้อน ๆ จากเตาทริปนี้ที่ตลาดเสียมเรียบ โดยคิดว่ารสชาติน่าจะมัน ๆ หวาน ๆ คล้ายกับประเทศไทยเรา เพราะว่าที่หยอดขนมครก รวมถึงแป้ง และวิธีการหยอดขนมครก หรือการแคะขนมครกของกัมพูชา เหมือนกันประเทศไทยเราเปี๊ยบเลย ผมให้ป้าเจ้าของร้านแคะขนมครกที่เพิ่งสุกมาชิมคิดว่าไม่มีอะไร แต่ว่าเขามีน้ำจิ้มเสริฟมาด้วย น้ำจิ้มของเขามีน้ำเชื่อมกับน้ำกะทิ ผมก็เลยงงว่าทำไมต้องมีน้ำจิ้มด้วยแล้วอย่างงี้คนที่ลดความอ้วนเขาจะกินได้เหรอ แต่พอชิมขนมครกคำแรกก็ต้องอ๋อเลย เพราะว่าขนมครกของเขาจืดมากจืดยังกับเอาแป้งมาทำขนมครกโดยไม่ปรุงรสอะไรเลย จึงเข้าใจแล้วว่าทำไมต้องมีน้ำจิ้มมันเป็นแบบนี้นี่เอง แต่รสชาติของน้ำเชื่อมกับน้ำกะทิของเขาก็มีรสชาติมัน ๆ ไม่หวานมากเท่าไร อันนี้ก็เป็นสีสันการกินได้ชิมรสขนมพื้นบ้านของคนกัมพูชาที่ผมได้ไปสัมผัสมาที่ตลาดเสียมเรียบ จังหวัดกันดาล
ตลาดเสียมเรียบ จังหวัดกันดาล siemreap market in Kandal Province Cambodia
ทำค้างคาวทอดสดอาหารราคาแพงพะตะบอง Bat fry servedis expensive incambodia ทำค้างคาวทอดสดอาหารราคาแพงพะตะบอง
ค้างคาวทอดในกัมพูชาทริปนี้ ต้องบอกได้เลยว่าแพงเวอร์ แถมผมยังถูกคนพะตะบองหลอกอีกว่าเป็นค้างคาว ซึ่งราคาจานละ 450 บาท ไทย ด้วยความที่ว่าผมไม่เคยกินเลยอยากจะลองดูว่ามันอร่อยแค่ไหน แล้วมันมีรสชาติเป็นไง เลยต่อรองราคาให้ร้านค้าลดราคาให้ได้ไหม ซึ่งเขาไม่ยอมลดราคาให้ผมเลย เพราะเห็นผมเป็นคนต่างชาติ งานนี้โดนฟันหัวแบะ ผมพยายามจะขอเขาเข้าไปถ่ายวิธีการทำค้างคาวทอดว่าทำไมมันแพงเวอร์จัง ซึ่งเจ้าของร้านไม่ให้ถ่าย ผมก็ไม่รู้ว่าเขาห่วงสูตรหรือว่าอะไรทำไมถึงยากเย็นผมเลยไม่เอา เราเลยเจรจาไปว่าถ้าจะให้ซื้อต้องให้ถ่ายวิธีการทำค้างคาวทอดให้ดูร้านค้าก็ตกลง พอเข้าไปดูก็ยังนึกว่าเป็นค้างคาว แต่กลับมาดูคลิปวีดีโอไหงมันเป็นนกเห็น ๆ เลย ผมโดนต้มเปื่อยเลยงานนี้ยังขำตัวเองไม่หาย ส่วนรสชาติก็เหมือนนกจริง ๆ แหละ ร้านที่ผมไปนั่งทานกับดาซึ่งเป็นคนเขมร อยู่ที่ริมอ่างเก็บน้ำกอมปิงปวย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพระตะบอง แถมทริปนี้ยังมีสาวสวยจากพะตะบองมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ด้วย น้ำลายจะไหล
โรงแรมบุปผา เกาะกง
อันแน่ออนทัวร์ได้เดินทางไปเที่ยวเกาะกง โดยทริปนี้ได้ค้างคืนที่พักในเกาะกงสองคืน ซึ่งเป็นโรงแรมของคนไทยไปเปิดให้บริการที่นั่น ผมรู้จักข้อมูลนี้ทางอินเตอร์เน็ตว่าที่นี่ให้บริการห้องพักในราคาไม่แพง ราคาคืนละประมาณ 300 บาท พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวก แอร์ ทีวี น้ำอุ่น ตู้เย็น Wifire ส่วนห้องพักมีหลายห้องไม่ต้องกลัวเต็ม ติดกับโรงแรมบุปผามีบริการนวดเขมรแผนไทยก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้ โรงแรมบุปผาตั้งไม่ไกลจากแม่น้ำเกาะกง หน้าทางเข้าซอยมีร้านอาหารบริการติดกับบริเวณริมแม่น้ำ ด้านหน้าโรงแรมมีบริการมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และไม่ไกลกันนักมีบริการมอเตอร์ไซค์ให้เช่าขับเองอีกด้วย
โรงแรมบุปผาเกาะกง
 
 
 
ขอบคุณข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 600 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. 10400 โทรศัพท์. 02-2505500
ขอบคุณข้อมุลจากกรมอุทยานแห่งชาติ 61 ถนนพหลโยธิน แขวง เสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพ 10900 โทรศัพท์. 02-561777, 02-579666
ปรับปรุงล่าสุด วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
best view with 800*600 by IE browser Copyright (c) 2005 All Rights Reserved :: Contac me >> annop_nanya@hotmail.com
 
แนะนำบริการและร้านค้าในเครือข่ายเรา
คู่มือซื้อของออนไลน์ : จองโรงแรมผ่านเน็ต : รีวิวโรงแรม : bticino : แบตเตอรี่ : ท่อhdpe : สายไฟ : fiber optic : haco