ทริปการเดินทางของผมทริปนี้ ผมเดินทางด้วยรถเริ่มตั้งแต่เมืองหลวงน้ำทา เข้าสู่เขตเมืองไซ (แขวงอุดมไซ) ที่มีความเจริญมาก ๆ แล้วขับรถลัดเลาะไปตามเส้นทาง 2W เป็นระยะทางประมาณ 143 กิโลเมตร ระหว่าทางก็ได้เห็นวิถีชีวิตมากมายจากชาวลาวที่อาศัยอยู่บริเวณริมถนน มีทั้งการทำไร่ทำนา รวมถึงการได้เข้าสู่เขตเมืองใหญ่ ๆ ได้เห็นความเจริญมากมายที่เข้ามาสู่ประเทศลาว และยังได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสายน้ำที่ขนานไปตามท้องถนนก่อนถึงเมืองปากแบ่งเพียงไม่กี่กิโลเมตร ที่ได้เริ่มทำการก่อสร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากประเทศจีน ซึ่งผมคิดว่าในอนาคตเส้นทางนี้คงเปลี่ยนไปมากจากวันนี้ที่เป็นแค่ถนนลูกรังสลับกับถนนลาดยางบางแห่งที่เป็นหลุมบ่อ แต่ในวันข้างหน้าอาจจะเป็นถนนคอนกรีตทั้งเส้นก็เป็นได้ และสิ่งเหล่านี้แหละก็จะทำให้ชีวิตคนเมืองปากแบ่งเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน การเดินทางมาเมืองปากแบ่งครั้งนี้ กับความคิดของผมที่ว่าเมืองนี้เป็นเมืองพักแรมสำหรับนักท่องเที่ยว 1 คืน จากนั้นแล้วในช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น นักท่องเที่ยวก็จะต้องล่องเรือต่อไปยังเมืองหลวงพระบาง เมืองปากแบ่งนี้ก็น่าจะเป็นเมืองที่เล็ก ๆ ที่พอจะหาที่พักได้ไม่ยาก รวมทั้งร้านอาหารก็คงจะพอมีให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการกันด้วย แต่หลังจากที่ผมได้เดินทางเข้ามาถึงเมืองปากแบ่งก็ต้องบอกได้เลยว่าผิดคาด เพราะเท่าที่มองด้วยสายตาเมืองปากแบ่งดูไฉไลกว่าที่คิด มีนักท่องเที่ยวแถวยุโรปเดินขวักไขว่ไปตามถนนเล็ก ๆ ที่เรียบริมแม่น้ำโขง แต่สำหรับทริปนี้ผมได้ขับรถยนต์เข้ามาประเทศลาวเอง ผมก็เลยขอขับสำรวจเมืองปากแบ่งไปเรื่อย ๆ ในบริเวณที่เป็นที่อยู่ชาวบ้านจริง ๆ เพื่อดูว่าเขามีความเป็นอยู่กันอย่างไร และก็พบว่าเมืองปากแบ่งเป็นเมืองที่มีคนอาศัยอยู่ไม่ใช่น้อยจากการสังเกตจากบ้านที่ปลูกเรียงรายไปตามแม่น้ำโขงยาวหลายกิโลเมตร แต่สำหรับช่วงใจกลางเมืองปากแบ่งนั้นจะเป็นย่านเศรษฐกิจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้เข้ามาใช้บริการ มีทั้งที่พัก ร้านอาหาร หลากหลายรูปแบบหลากหลายราคา อาทิ เกสท์เฮ้าส์ รีสอร์ท ร้านกาแฟ ร้านอาหารยุโรป และที่ขาดไม่ได้คือ ร้านอาหารท้องถิ่น แต่โดยรวมแล้วที่เมืองปากแบ่งจะไม่วุ่นวายมากนักในช่วงเวลากลางวัน แต่จะเริ่มวุ่นวายกันในช่วงเวลายามเย็นเพราะนักท่องเที่ยวต้องลงเรือมาหาที่พักในเมืองปากแบ่ง ส่วนในเวลายามเช้านักท่องเที่ยวต้องลงเรือลำเดิมเพื่อเดินทางไปต่อ หลังจากที่นักท่องเที่ยวลงเรือไปหมดแล้วนั้น ร้านค้า ที่พักก็จะปิดตัวลงอีกครั้ง ความเงียบก็จะเข้ามาปกคลุมเมืองปากแบ่งทันที จนถึงเวลายามเย็นเมืองปากแบ่งก็จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะนักท่องเที่ยวชุดใหม่เริ่มทยอยเข้ามา คนในเมืองปากแบ่งก็จะเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งเช่นกัน เป็นอย่างนี้ทุกวัน ๆ เรื่อย ๆ ตราบใดที่ธรรมชาติยังคงอยู่และความเจริญยังเข้ามาไม่ถึงเมืองปากแบ่ง
ทั่วโลก annaontour