ข้อมูล
มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย มีเนื้อที่ประมาณ 348.12 ตารางกิโลเมตรหรือ 217,576.25 ไร่
เรื่องเล่ามาแต่โบราณว่า มีผู้ได้ยินเสียงระฆังของพระอินทร์ที่อยู่บนเขานี้ ดังนั้นจึงให้ชื่อว่า ภูกระดึง หรือภูกะดึง เพราะคำว่า " ภู " หมายถึง " ภูเขา " และ " กระดึง " มาจาก " กระดิ่ง " ภาษาพื้นเมืองจังหวัดเลยแปลว่า " ระฆังใหญ่ " นอกจากนี้เมื่อขึ้นไปบนยอดเขาบางส่วน หากเดินหนักๆ หรือใช้ไม้กระทุ้งก็จะมีเสียงก้องคล้ายระฆัง ซึ่งเกิดจากโพรงข้างใต้ จึงได้รับขนานนามว่า ภูกระดึง
ตำนานแต่โบราณว่ามีพรานผู้หนึ่งตามล่ากระทิงโทนขึ้นไปจนถึงบนยอดภูเขาลูกหนึ่ง ในเขตตำบลศรีฐาน ได้พบพื้นที่บนยอดเขาราบเรียบ และกว้างใหญ่มากเป็นทุ่งหญ้าสลับกับป่าสน มีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างเรียงรายเป็นระเบียบ และยังเต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้างป่า, ฝูงกระทิง, เก้ง, กวาง ซึ่งหากินอยู่เป็นฝูงๆ ไม่ตระหนกตื่นกลัวนายพราน เนื่องจากไม่เคยเห็นคนมาก่อน นับตั้งแต่นั้นมาภูกระดึงซึ่งธรรมชาติได้ปิดบังซ่อนเร้นมานาน ก็ถูกเปิดเผยให้มนุษย์รู้จัก
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ประกอบด้วยภูเขาที่มีธรรมชาติอันสวยสดงดงามมาก ที่ราบบนยอดภูกระดึงมีพืช บนที่ราบยอดเขาเป็นพืชเมืองหนาว ได้แก่ ป่าสนสองใบ, ป่าสนสามใบ, ป่าต้นเมเปิล ( ไฟเดือนห้า ) และพันธ์ไม้ดอกที่สวยงาม เช่น กุหลาบป่า, ม้าวิ่ง, เอื้องหินคำ, ดอกม่วนดักหงาย เป็นต้น ตลอดจนมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ บรรยากาศและทิวทัศน์ที่สวยงามหลายแห่ง
จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนภูกระดึง
ผานกแอ่น อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 2 กิโลเมตร และห่างจากหลังแป 2.5 กิโลเมตร ผานกแอ่นเป็นลานหินเล็กๆ มีสนขึ้นโดดเด่นริมหน้าผาต้นหนึ่ง เป็น จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่งดงามยิ่ง อากาศก็สดชื่นเย็นสบาย มองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา เห็นผานกเค้าได้ชัดเจน ริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นเป็นสวนหินมีดอกกุหลาบป่าขึ้นอยู่เป็นดงใหญ่ จะบานสะพรั่งเต็มต้นในเดือนมีนาคม - เมษายน
ผาหล่มสัก อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 9 กิโลเมตร เป็นลานหินกว้างและมีสนต้นหนึ่งขึ้นอยู่ชิดริมผาใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปในอากาศทางทิศใต้ บริเวณผาหล่มสักนี้มองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสลับซับซ้อนในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ และเป็นจุดหนึ่งที่จะ ชมพระอาทิตย์ตก ได้อย่างชัดเจนที่สุด บรรดาช่างภาพ สื่อมวลชน นิยมไปถ่ายภาพ ณ จุดนี้กันมาก เพราะยามตะวันตกดินจะเกิดทัศนียภาพงดงามที่สุด
สระอโนดาด เป็นสระน้ำขนาดย่อมที่มีต้นสนขึ้นเป็นแนวเน่นขนัดตามริมสระ บริเวณปากธารน้ำไหลมีลานหินโผล่ขึ้นมายามน้ำน้อย สามารถไปนั่งเล่นได้ จากบริเวณสระอโนดาดยังมีทางเดินไปบรรจบกับเส้นทางสู่ ถ้ำสอ และ ถ้ำน้ำ ได้
สระแก้ว อยู่ในส่วนต้นน้ำของลำธาร "ธารสวรรค์" ลักษณะเป็นวังน้ำลึกขนาดไม่กว้างนัก น้ำใสมากจนมองเห็นพื้นหินขาวสะอาด ต่อจากบริเวณสระแก้วมีทางเดินชมธรรมชาติผ่านลานหินซึ่งมีดอกหรีด ( สีม่วงอมน้ำเงินเกสรสีเหลือง ) ขึ้นกระจายทั่วไปบริเวณที่โล่งริมน้ำ ไปจนถึงผานาน้อย
น้ำตกเพ็ญพบใหม่ เกิดจากลำธารวังกวาง น้ำตกผ่านผาหินรูปโค้ง ในหน้าหนาว " ใบเมเปิ้ล " จากบริเวณริมน้ำตกจะร่วงหล่นลอยไปตามผิวน้ำ ยามแดดสาดส่องผ่านลงมาจะเป็นสีแดงจัด ตัดกับสีเขียวขจีของตะไคร่น้ำตามโขดหิน ลำธารวังกวางเป็นต้นกำเนิดน้ำตกที่มีชื่ออีกแห่งหนึ่ง คือ " น้ำตกโผนพบ " ซึ่งตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ โผน กิ่งเพชร นักชกแชมเปี้ยนโลกคนแรกของชาวไทย ในฐานะเป็นผู้ค้นพบคนแรก เมื่อคราวที่ขึ้นไปซ้อมมวยให้ชินกับอากาศหนาวก่อนเดินทางไปชกในต่างประเทศ
น้ำตกตาดร้อง เกิดจากล้ำน้ำพอง ซึ่งไหลลงมาจากภูกระดึงหุบเขาด้านตะวันตกเฉียงเหนือ สองฝั่งของตาดร้องเป็นผาหินสูงชันมาก เมื่อน้ำตกผ่านผาหินกว้างที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ จึงทำให้เกิดเสียงดังกึกก้อง จากบริเวณน้ำตกมองเห็นแนวภูเขาเปลือยขวางอยู่ข้างหน้า น้ำตกตาดร้องอยู่ห่างจากที่ทำการ ประมาณ 20 กิโลเมตร
น้ำตกวังกวาง เป็นน้ำตกที่อยู่ ใกล้กับที่พักมากที่สุด ในบรรดาน้ำตกบนภูกระดึง ระยะทางเพียง 750 ้เมตร จากจุดเริ่มต้นตรงบริเวณบ้านพัก ลักษณะน้ำตกเป็นผาหินไม่สูงนัก ตัดขวางลำธาร ธารน้ำก็ไหลลดขึ้นลงยังวังน้ำเบื้องล่าง ซึ่งมีลักษณะคล้ายโพรงถ้ำมุดลงไป และบริเวณป่าใกล้ๆ ก็เป็นที่อยู่อาศัยของ ฝูงกวาง มักจะลงมากินน้ำอยู่เสมอๆ จึงเรียกน้ำตกอย่างน่าเอ็นดูว่า น้ำตกวังกวาง สูง 7 เมตร บริเวณน้ำตกมีที่กว้างขวางให้ได้นั่งพักสบายๆ หลายมุม เพราะน้ำตกอยู่ไม่ไกล นักท่องเที่ยวจึงเลือกน้ำตกวังกวาง เป็นห้องอาบน้ำขนาดใหญ่
น้ำตกถ้ำใหญ่ ห่างจากน้ำตกเพ็ญพบใหม่ ประมาณ 1 กิโลเมตร เส้นทางเดินไปสู่น้ำตกจะดูใกล้นิดเดียวสำหรับคนชอบธรรมชาติ ชมนกชมไม้ เพราะตลอดเส้นทางครอบคลุมไปด้วยป่าดิบเขาที่มีพรรณไม้ใหญ่และร่มครึ้มกว่าทุกเส้นทางน้ำตกอื่นๆ อาจได้พบ ต้นส้มกุ้ง ( Begonice sp. ) ออกดอกเป็นสีชมพู เกสรกลางสีเหลือง ชอบขึ้นตามทางในพื้นที่สูงอย่างป่าดงดิบเขา ในเส้นทางถ้ำใหญ่นี้มีทางเดินบางช่วงที่เลียบข้างลำห้วยเล็กๆ มี ต้นเมเปิ้ล อยู่เป็นระยะๆ หากช่วง ต้นมกราคม เส้นทางนี้จะ แดงฉานด้วยใบเมเปิ้ล ที่ร่วงหล่นเกลื่อนพื้นป่า ความสวยงามของน้ำตกถ้ำใหญ่จะแปลกตาด้วยโขดหินมหึมาวางทับซ้อนไม่เป็นระเบียบ ลำธารนี้ขนาบข้างด้วย ต้นเมเปิ้ล ยามเมเปิ้ลแดงร่วงหล่น ขัดสีให้ลำธารหินเขียวสวยงามมีสีสันและมีชีวิตชีวาขึ้นมากนัก เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว
น้ำตกธารสวรรค์ จากน้ำตกถ้ำใหญ่เมื่อออกสู่ป่าสนไม่ไกลนักจะมีทางแยกบนลานหินสู่น้ำตกธารสวรรค์ ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักตามเส้นทางป่าสนผ่านลานองค์พระพุทธเมตตาเพียง 1.6 กิโลเมตร เท่านั้น เป็นน้ำตกขนาดเล็ก
น้ำตกโผนพบ เป็นหนึ่งในน้ำตกหลายจุดอันเกิดจากสายน้ำวังกวาง ห่างจากตัวน้ำตกเพ็ญพบใหม่เพียง 600 เมตร เท่านั้น ในส่วนของลำธารส่วนบนของน้ำตกโผนพบนี้ สามารถไปยืนชมตัวน้ำตกกลางลำธารซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม น้ำตกมี 8 ชั้น สูงประมาณ 30 เมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามไม่น้อยบนภูเขานี้
น้ำตกพระองค์ คล้ายกับน้ำตกถ้ำใหญ่ แต่เป็นน้ำตกขนาดเล็กกว่า เกิดจากลำธารพระองค์ไหลเป็นลำธารเล็กๆ แล้วดิ่งตกลงหน้าผาที่ไม่สูงนักมุ่งสู่หินเบื้องล่าง ลำธารพระองค์นี้เป็นลำห้วยเล็กๆ ที่ไหลมาจากสระอโนดาด สระน้ำกลางป่าสนซึ่งไม่เคยเหือดแห้ง จึงมี น้ำไหลตลอดปี
น้ำตกสอเหนือ เป็นน้ำตกขนาดกลาง สูง 10 เมตร ชั้นเดียว เกิดจากการพังทลายของแผ่นดินขนาดใหญ่เช่นเดียวกับน้ำตกหลายแห่ง ผาหินคล้ายน้ำตกเพ็ญพบใหม่ มีสายน้ำไหลกลายเป็นบริเวณกว้าง
น้ำตกสอใต้ อยู่ในลำธารสายเดียวกับน้ำตกสอเหนือและอยู่ไม่ไกลกันนัก เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ที่เกิดจากหน้าผาหินถล่มลงไป สภาพภูมิประเทศไม่ได้อำนวยให้เกิดเป็นชั้นน้ำตกเหมือนแห่งอื่นๆ จึงอยู่นอกเหนือความนิยมของนักท่องเที่ยว
สถานที่เที่ยวอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น น้ำตกถ้ำสอ, น้ำตกผาน้ำผ่า, น้ำตกถ้ำพระ, น้ำตกขุนพอง, ผาหมากดูก , ผาแดง, ผาเหยียบเมฆ, สวนสีดา, ลานวัดพระแก้ว เป็นต้น
ค่าธรรมเนียม
มีด่านเก็บค่าธรรมเนียมชาวไทยผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ท่านละ 400 บาท เด็กท่านละ 200 บาท และบริการลูกหาบสัมภาระ กิโลกรัมละ 15 บาท
นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์และบ้านพักได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ โทร.042-871333 หรือติดต่อกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 02-56 0760 www.dnp.go.th
ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน ของทุกปี
เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี
แผนที่สถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
|