อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี อ.เมือง จ.ระนอง
อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี ตั้งอยู่ทางด้านฝั่งทะเลอันดามัน ในท้องที่อำเภอกระบุรี อำเภอละอุ่น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปี 2542 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนที่ 29 ก ลงวันที่ 21 เมษายน 2542 ครอบคลุมพื้นที่ 160 ตารางกิโลเมตร มีพรมแดนติดกับประเทศสหภาพพม่าทางด้านทิศตะวันตก โดยมีแม่น้ำกระบุรีเป็นเส้นแบ่งกั้นของประเทศทั้งสอง พื้นที่ประมาณ 64 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 40 ของพื้นที่ ในแม่น้ำมีเกาะจำนวน 6 เกาะ ได้แก่ เกาะเสียด เกาะขวาง เกาะโชน เกาะยาว เกาะปลิง และเกาะนกเปล้า ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะชายฝั่งของอุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรีเป็นลักษณะชายฝั่งจมตัว เป็นผลให้ชายหาดตลอดแนวฝั่งแคบ มีลำน้ำหลายสาย ขนาดใหญ่เล็กจำนวนมากจากที่สูงในแผ่นดินไหลออกสู่แม่น้ำกระบุรีประกอบด้วย คลองบางหมี คลองขี้นาค คลองลำเลียง คลองบางสองรา คลองบางใหญ่เหนือ คลองบางใหญ่ คลองละอุ่น คลองจิก คลองหลุมถ่าน คลองเสร็จตะกวด และคลองหินช้าง ซึ่งแม่น้ำลำคลองเหล่านี้ได้พัดพาตะกอนดินมาทับถมตามปากแม่น้ำและชายฝั่งทำให้ลักษณะชายฝั่งบริเวณปากแม่น้ำ ลำคลองถูกปกคลุมไปด้วยป่าชายเลน สำหรับบริเวณที่เป็นเทือกเขาสูงริมฝั่งมีลักษณะเป็นภูเขาสลับซับซ้อน ประกอบด้วย เขาง่าม เขาเส็ดตะกวด เขาหินช้าง เขาเมืองสูง เขาจอมแหลม เขาสามแหลม เขาหลุมถ่าน และเขาน้ำร้อน มียอดเขาเมืองสูงเป็นยอดเขาสูงสุด โดยสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 609 เมตร ลักษณะทางธรณีเป็นหินชั้น หินแปร และหินอัคนี โดยบริเวณเกาะเสียด เกาะยาว เกาะขวาง เกาะโชน เกาะปลิง และบริเวณที่ราบริมน้ำ ซึ่งตั้งแต่ตอนเหนือใกล้บ้านบางกุ้งถึงตอนใต้ของเขาเส็ดตะกวด เป็นหินชั้นและหินแปรที่มีอายุราวในยุคควาเทอร์นารี ประมาณ 2 ล้านปีมาแล้ว ที่เกิดจากแหล่งตะกอนน้ำพา เป็นกรวด ทราย ทรายแป้ง ดิน แหล่งตะกอนชายหาด ตะกอนรูปพัดเป็นกรวดและทราย ส่วนของแผ่นดินที่ถัดเข้ามาทางทิศตะวันออกช่วงเหนือคลองละอุ่นถึงตอนเหนือสุดของพื้นที่ เป็นหินออร์โธควอร์ตไซต์ หินทรายแป้ง และหินดินดาน มีซากไบรโอซัวและแบรคิโอพอดปะปนอยู่ ในหน่วยมัทรี มีอายุราวในยุคคาร์บอรนิเฟอรัส ประมาณ 345 - 280 ล้านปีมาแล้ว ช่วงใต้คลองจิกลงไปทางตอนใต้ส่วนใหญ่เป็นหินเกรย์แวก หินทรายปนกรวด หินดินดานปนกรวด และหินโคลนชั้นหนามากถึงชั้นหนา มีหินเทอร์บิไดต์สลับอยู่บ้าง ในหินหน่วยกระบุรี ชุดตะนาวศรี ยุคไซลูเรียน-ดีโวเนียน ประมาณ 425 - 405 ล้านปีมาแล้ว บริเวณที่เป็นหินอัคนีมีน้อยมากอยู่ระหว่างเขาสามแหลมและเขาหินช้าง เป็นหินไบโอไทต์ แกรนิต เนื้อปานกลางถึงละเอียด ยุคไทรแอสซิก ประมาณ 230 ล้านปีมาแล้ว ลักษณะภูมิอากาศ ลักษณะภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรีมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด 13.7 องศาเซลเซียส สูงสุด 34 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 4,276 มิลลิเมตร/ปี ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน พืชพรรณและสัตว์ป่า พืชพรรณธรรมชาติที่ปรากฏในอุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรีประกอบด้วย 1. ป่าดิบชื้น ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 72 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 45 พบมากบริเวณเขาหินช้าง เขาสามแหลม เขาเมืองสูง และเขาจอมแหลม พันธุ์พืชที่สำคัญได้แก่ ยาง ตะเคียน ขุไม้ และไม้ในตระกูลปาล์ม 2. ป่าชายเลน พบมากบริเวณปากน้ำคลองละอุ่น ริมฝั่งลำน้ำกระบุรีด้านเขาหินช้าง และบริเวณหมู่เกาะหน้าปากน้ำละอุ่น พันธุ์ไม้ที่สำคัญประกอบด้วย โกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก โปรง ตะบูนดำ ตะบูนขาว พังกาหัวสุม ตาตุ่มทะเล แสมขาว ลำแพน ถั่วขาว ถั่วดำ ตีนเป็ดทะเล มังคะ หงอนไก่ทะเล เป้ง จาก และเหงือกปลาหมอดอกม่วง 3. ทุ่งหญ้า อยู่บริเวณหลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติบริเวณเขาหญ้า มีพื้นที่ประมาณ 1.6 ตารางกิโลเมตร อดีตเป็นแปลงปลูกป่าที่ผ่านการบำรุงรักษาแล้ว แต่ถูกไฟไหม้ทุกปี จึงมีสภาพเป็นภูเขาหญ้าในปัจจุบัน สัตว์ป่าที่พบในอุทยานแห่งชาติประกอบด้วย 1. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ได้แก่ เสือโคร่ง เสือลายเมฆ หมีควาย หมูป่า กระจง ลิงแสม ชะมด ค้างคาว เป็นต้น 2. นก ได้แก่ เหยี่ยว นกกระปูด อีกา นกกินปลี นกขุนทอง นกหัวขวาน นกเขา นกกางเขน นกเงือก และไก่ป่า เป็นต้น 3. สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ได้แก่ งูชนิดต่างๆ กบ อึ่งอ่าง คางคก เขียด และปาด 4. สัตว์น้ำ ได้แก่ ปลาไหลทะเล ปลากระบอก ปลาทู ปลาตีน ปูก้ามดาบ หอยแมลงภู่ และกุ้งแม่น้ำ เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี 130 หมู่ 3 บ้านหินช้าง ถนนเพชรเกษม ต.ปากน้ำ อ. เมืองระนอง จ. ระนอง 85000 โทรศัพท์ 077-870238 (VoIP), 081-2290563 (จนท.) อีเมล lumnumkraburi@hotmail.com
ุจากกรุงเทพฯ มาตามเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ไปถึงสี่แยกชุมพร-ระนอง ให้เลี้ยวขวาไป จ.ระนอง ประมาณ หลักกิโลเมตรที่ 595 จะพบทางแยกขวามือไปทางอุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี ให้เลี้ยวไปตามเส้นทางหลวงชนบท รน.4010 ตรงหลักกิโลเมตรที่ 14 (เข้ามาประมาณ 1กิโลเมตร) ก็จะพบอุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรีอยู่ทางด้านขวามือ
ทั่วโลก annaontour