ผมเดินทางมาสู่เมืองมะริดในพม่าตอนใต้เป็นครั้งแรก โดยที่ไม่รู้ว่าควรจะเดินทางไปที่ไหนและท่องเที่ยวตรงไหนดี แต่ด้วยความโชคดีของผมโดบังเอิญที่ผมมีโอกาสได้รู้จักกับคนพม่าที่เคยทำงานในประเทศไทย ที่เกาะพะแทวพะเท็ด ระหว่างที่ผมกำลังเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะพะแทวพะเท็ด น้องพม่าคนหนึ่งเข้ามาทักผมโดยถามผมว่าเป็นคนไทยใช่ปล่าว ผมก็บอกว่าใช่ เขาคงคิดว่าผมมาทำงานนะ เพราะส่วนใหญ่คนไทยน้อยคนที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองมะริด ระหว่างสนทนาไปมานั้นผมก็ได้รู้จักชื่อน้องคนนี้ว่าชื่อชัย และชัยก็พูดภาษาไทยได้ดี ผมก็เลยสอบถามข้อมูลเรื่องท่องเที่ยวในเมืองมะริดและบริเวณเกาะต่าง ๆ ในเมืองมะริด จากนั้นผมเลยเอ่ยปากชวนชัยไปเที่ยวเกาะใกล้ ๆ นี้ว่ามีเกาะไหนบ้างที่น่าสนใจ และชัยก็แนะนำให้ไปเที่ยวเกาะกะลา ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเกาะพะแทวพะเท็ดแต่ต้องนั่งเรือจากเมืองมะริดมาประมาณ 2 ชั่วโมง และเป็นโชคดีของผมอีกครั้งที่ชัยมีน้องชายทำอาชีพเรือรับจ้างด้วย ผมเลยให้ชัยติดต่อเรือรับจ้างในราคาเหมาไปเที่ยวเกาะกะลาในราคา 1,000 บาท แต่น้อง ๆ ของชัยอายุนยังน้อย ๆ กันอยู่เลย ผมคิดว่าพวกเขายังเด็กกันอยู่คงน่าจะไม่ค่อยมีรายได้ซักเท่าไร ทริปการเที่ยวเกาะกะลาครั้งนี้ผมเลยอาสาเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำรวมถีงขนมผลไม้ให้กับทีมงานเรือรับจ้างเที่ยวเกาะกะลาเด็กชุดนี้ด้วย ระหว่างการเดินทางไปยังเกาะกะลาเราก็จะได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านชาวประมงที่อาศัยอยู่ตามบริเวณเกาะแก่งต่าง ๆ ที่ออกมาหาปูหาปลา มาประกอบอาชีพตามแถวแนวชายฝั่งและตามในท้องทะเล |
เตรียมตัวเดินทางสู่เกาะกะลาน่านน้ำทะเลอันดามันพม่าตอนใต้
เรือรับจ้างนำเที่ยวเกาะกะลามีลูกเรือเดินทางไปด้วย
นั่งชมวิวระหว่างมุ่งสู่เกาะกะลา
เมืองมะริด
เรือแล่นผ่านกะพะแทวพะเท็ด
ชาวประมงริมหาดเกาะพะแทวพะเท็ด
การทำไม้บนเกาะพะเท็ด
เห็นเกาะกะลาริบ ๆ
ใกล้จะถึงเกาะกะลาแล้ว
|
นั่งเรือมุ่งหน้าสู่เกาะกะลาจอน่านน้ำอันดามันพม่า go to kala island in south burma
|
|
เรือรับจ้างแล่นมาเกือบถึงเกาะกะลา ผมแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่าเหมือนมีเส้นอะไรที่พาดยาวอยู่กลางทะเล และไม่ใช่มีแค่เส้นเดียวเท่านั้นแต่มีหลายเส้นมากเป็นสีขาว ๆ คนขับเรือบอกกับชัยว่ามันคือสันทรายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โอ้ไม่น่าเชื่อเลยว่าทะเลอันดามันเมืองมะริดจะมีทะเลแหวกเกิดขึ้นกลางทะเลอันดาแบบนี้ด้วย ผมบอกได้เลยว่าสวยมาก ๆ เป็นสันทรายสีขาว ๆ แถมเวลาเดินลงไปเล่นแสงแดดจะส่งกระทบกับพื้นผิวน้ำเป็นแสงสะท้อนสวยงามมาก ๆ เลย สันทรายมียาวมากยาวเป็นกิโลเลย แต่ชัยบอกยังไม่ให้ผมเล่นน้ำที่นี่ตอนนี้ เพราะเดี๋ยวจะมีเรือใหญ่เข้ามาดูดทรายบริเวณนี้ หากทรายยุบตัวเราอาจโดนดูดไปด้วย ฉะนั้นให้ไปเล่นน้ำบริเวณริมชายฝั่งตรงอื่นดีกว่า เราเลยมีเวลาเดินเที่ยวบนสันทรายกันประมาณครึ่งชั่วโมงพลันก็กลัวน้ำทะเลขึ้นด้วย แต่ผมก็เก็บบรรยากาศทะเลแหวกบนสันทรายฝั่งประเทศพม่ามาฝากเพื่อน ๆ คนที่ติดตามอันแน่ออนทัวร์ได้รับชมกัน ส่วนตัวผมรู้สึกอยากเล่นน้ำมากเลยเพราะน้ำทะเลตรงนี้ใสมาก เห็นพื้นทรายสีขาวสวยแถมมีปูเสฉวนตัวใหญ่ ๆ ขึ้นมาอยู่บนสันทรายให้ได้เห็น และนี่แหละความอัศจรรย์ที่อยู่ในทะเลอันดามันฝั่งพม่าแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีแบบนี้ด้วยในพม่า |
มาเจอทะเลแหวกกลางทะเลอันดามันที่เกาะกะลา
หาดทรายสีขาวของเกาะกะลา
ทะเลแหวกมีเยอะมากในทะเลอันดามัน
น้ำใส ๆ ของทะเลแหวก
น้ำน่าลงไปเล่นมาก
เดินเล่นบนทะเลแหวก
แผนทรายกลางทะเลอันดามัน
ทะเลแหวกยาวเป็นสายกลางทะเลอันดามันฝั่งพม่า
เดินกลับเรือก่อนที่น้ำจะขึ้นมา
น้ำใสเห็นทรายเป็นสีทองระยับ
วิวสวย ๆ ของทะเลเมืองมะริด
|
มหัศจรรย์ทะเลแหวกกลางทะเลอันดามันพม่ายาวเป็นกิโล amazing andaman sea in burma |
|
ผม ชัย และทีมงานเรือรับจ้างนำเที่ยวพม่าที่เมืองมะริดยังคงเดินทางในน่านน้ำทะเลอันดามันต่อไป ผมยังมีความสุขกับการได้เห็นทะเลแหวกอยู่ แต่ก็พลันเหลือบไปเห็นพื้นดินกลางทะเลเหมือนกับว่าเป็นภูเขาที่โผล่ขึ้นมาเสมอกับพื้นน้ำ น้องชัยที่เป็นคนขับเรือบอกว่ามีคนหลายคนพูดว่ามีเกาะที่โผล่ขึ้นมาบนเหนือน้ำทะเลแบบนี้แหละเขารู้ทั้งรู้ว่ามีเกาะแบบนี้อยู่ แต่เขาไม่เคยเห็นซักครั้ง เขาขับเรือมาสิบกว่าปีแล้วผ่านมาแถวนี้หลายครั้งก็ไม่เคยเห็นซักครั้ง และพึ่งมาเห็นพื้นดินที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำทะเลก็คราวนี้แหละ ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของผมที่ได้เห็นเกาะนี้พอดีเลย ผมเลยให้คนขับเรือพาไปจอดบนพื้นดินนี้ว่าคืออะไรกันแน่ ผมโดดลงเรือปั๊บตอนแรกผมเห็นพื้นดำ ๆ นึกว่าเป็นโคลนคงจะเละ ๆ อะนะ แต่ที่ไหนได้เป็นดินแข็ง ๆ ผมหยิบดินขึ้นมาดูแล้วผมจึงรู้ว่านี่ไม่ใช่ดินแต่มันเป็นซากฟอสซิลของหอยที่เกาะตัวกับพื้นบนเกาะนี้มันค่อนข้างแข็งมาก ๆ เลย ผมเลยชวนกันเดินเล่นบริเวณนี้ซึ่งเป็นลานกว้าง ๆ แถมยังได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนนี้มากมายไม่ว่าจะเป็นหอย ปู ปลา ไส้เดือนทะเล นกน้ำ พวกเราเดินเล่นกันซักพักกใหญ่ก็ขึ้นเรือออกมา เราออกเรือมาได้ซักเกือบครึ่งชั่วโมงเกาะนี้ก็หายไปแล้วเพราะน้ำขึ้นเร็วมาก แหมช่างบังเอิญเป็นความโชคดีของผมจริง ๆ เลยครับทริปนี้ |
เกาะกลางทะเลอันดามันไม่ไกลจากเกาะกะลา
พื้นทรายขึ้นเหนือน่านน้ำทะเลอันดามันบริเวณเกาะกะลา
ฟอสซิลหอยขึ้นมาเหนือน้ำในช่วงน้ำลด
นกเน้ำมาหากินบนภูเขาหอยล้านปี
เดินเล่นบนภูเขาหอยล้านปี
พื้นภูเขาหอยมีพื้นที่กว้างมาก ๆ
พื้นดินโผล่ขึ้นเหนือน้ำทำให้เห็นสภาพดินและซากหอยจำนวนมาก
อยูไม่ไกลกันแต่ถ้าว่ายน้ำไปจะไหวไหมเนี๊ยะ
ดินแข็ง ๆ ของซากหอย
เดินลัดเลาะริมภูเขาหอยล้านปี
ด้านหน้าเป็นกาะจอสุ
ด้านนี้มีพื้นทรายโผล่ขึ้นมาด้วย
ลงน้ำจับปูในบริเวณที่น้ำขัง
หอยและปูจำนวนมาที่อาศัยหากินอยู่บริเวณนี้
เดินขึ้นไปบนซากฟอสซิลหอยล้านปี
อยากเดินขึ้นไปนะแต่คงเหนื่อยไม่ใช่น้อยไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตรงนี้แหละ |
ภูเขาหอยล้านปีกลางทะเลอันดามันพม่า shellfish million years mountain in andaman sea
|
|
ถึงเวลาเที่ยงเกือบบ่ายพวกเรานำเรือมาจอดเทียบท่าบริเวณริมชายหาดเกาะกะลาเพื่อหาที่กินข้าว บริเวณริมชายหาดเกาะกะลามีบ้านชาวบ้านหรือชาวประมงปลูกอยู่แค่หลังเดียว โดยบริเวณนี้ยังมีที่พักที่ปล่อยร้างไปแล้วประมาณ 4-5 หลัง แต่ภายในนั้นถูกดัดแปลงเป็นที่เก็บอุปกรณ์กีดยางพาราไปแล้ว พวกเรากินข้าวที่เตรียมากันอิ่มแป้กันแล้ว พลันก็แยกกันออกเดินเล่นริมทะเลตามแนวชายหาดทรายสีเหลืองน้ำตาล โดยมีร่มไม้ของต้นมะพร้าวที่ปลูกตามแนวริมหาดเกาะกะลายาวไปตลอดแนว โดยมะพร้าวแต่ละต้นจะเอียงโน้มไปตามแนวผืนทรายทำให้ดูแปลกตาและสวยงาม สามารถนั่งเล่นบนต้นมะพร้าวได้สบาย ๆ พวกเรานั่งพักผ่อนรับลมทะเย็น ๆ กันเต็มอิ่ม แล้วก็เดินลัดเลาะไปตามหาดทรายบนเกาะกะลาซักพักก็ไปถึงหมู่บ้านบนเกาะกะลา
ู |
ชายหาดเกาะกะลาสวยงามและร่มเย็น
ริมทะเลเกาะกะลา
kala beach
kala island
บ้านชาวประมงริมหาดเกาะกะลา
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมหาดเกาะกะลา
กินข้าวกันริมทะเลเกาะกะลา
เกสท์เฮ้าส์ที่ร้างไปแล้ว ด้านหลังเป็นสวนยาง
ต้นมะพร้าวจะเองไปตามแนวชายหาดเกาะกะลา
ที่นั่งบนขอนไม้บนเกาะกะลา
มุมริมทะเลชายหาดเกาะกะลา
พื้นทรายและก้อนกรวดริมทะเลเกาะกะลา
แนวทะเลชายหาดเกาะกะลา
|
แวะเดินเล่นกินข้าวบนชายหาดกะลาจอ kala island beach in myeik |
อาชีพปลูกยางพาราบนเกาะกะลา เมืองมะริด |
เดินเรียบชายหาดไปหมู่บ้านบนเกาะกะลาจอ road to village on kala island
|
|
หมู่บ้านบนเกาะกะลา มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก ๆ มีต้นจากมากมาย มีปูที่เขาเอามาทำส้มตำเดินออกหากินบริเวณร่องน้ำตามทางเยอะแยะมากมาย มีต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นต้นสาเก มะพร้าว มะม่วง และอื่น ๆ อีกเพียบ ที่สำคัญใครจะเชื่อว่าบนเกาะในทะเลพม่าตอนใต้แบบนี้จะมีบ้านที่ปลูกสร้างค่อนข้างเยอะพอสมควรบนเกาะ บ้านเรือนแต่ละหลังปลูกบ้านยกพื้นสูงจากพื้นดิน เพื่อหนีน้ำในช่วงเวลาน้ำทะเลหนุน ส่วนต้นไม้ที่สวย ๆ งาม ๆ ก็ปลูกไว้ในกระถางแล้วเอามาตั้งไว้บนเสาสูง ๆ เช่นกัน อาชีพหลัก ๆ ของชาวบ้านบนเกาะกะลาจอ คือ อาชีพประมง อาชีพปลูกยางพารา และอาชีพทำหลังคาจากขาย ส่วนต้นจากยังสามารถกรีดน้ำจากเพื่อทำน้ำตาลสดขายเป็นช่วง ๆ เช่นกัน ด้านในของหมู่บ้านยังมีร้านค้าร้านขายของหลายร้านค้า แต่ละร้านมีสินค้าที่นำมาขายจากเมืองมะริด กลางบริเวณหมู่บ้านมีวัดขนาดไม่ใหญ่อยู่ ้เพื่อให้ชาวบ้านได้เข้าไปทำบุญกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนวัด แต่ความที่ไม่น่าเชื่อของหมู่บ้านแห่งนี้คือความสะอาด และสะอาดมาก ๆ เมื่อเทียบกับพม่าในเมืองอื่น ๆ ที่ผมเคยเห็นมา ผมเดินเข้ามาเป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตรยังไม่สุดหมู่บ้าน แต่เวลาเริ่มเย็นแล้วยังต้องเดินทางกลับฝั่ง เลยหันหัวกลับ แต่ผมก็ยังได้เห็นชาวบ้านขับมอเตอร์ไซค์ประมาณ 2-3 คันบนเกาะด้วย ส่วนในหมู่บ้านยังมีสัตว์เลี้ยงให้เห็น เช่น สุนัขเยอะพอสมควร มีการเลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงหมูให้เห็น ในหมู่บ้านบนเกาะกะลามีบ่อน้ำสะอาดที่ขุดขึ้นมาใช้ภายในหมู่บ้านประมาณไม่น้อยกว่า 2 บ่อ ผมบอกได้เลยว่าบนหมู่บ้านกลางเกาะกะลา เป็นบรรยกาศธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และน่าเข้ามาพักผ่อนอย่างมาก และในหมู่บ้านบนเกาะกะลาจอนี้ยังมีวิถีชีวิตชาวบ้านที่น่าค้นหาอีกด้วย |
ชาวบ้านบนเกาะกะลา
หมู่บ้านบนเกาะกะลาสานจากมุงหลังคาขาย
เส้นทางเดินเข้าสู่หมู่บ้านบนเกาะกะลา
ในเกาะกะลาการปลูกยางพาราเป็นจำนวนมากด้วย
บ้านไม้ที่ยกพื้นบนเกาะกะลา
บ้านที่สร้างจากใบจากทั้งหลัง
วัดบนเกาะกะลา
ศาลาวัดที่กำลังจะสร้างขึ้น
ต้นสาเกมีลูกเต็มต้น
เดินเข้าสู่กลางหมู่บ้านกะลาจอ
หมู่บ้านกลางเกาะกะลาจอ
ชาวบ้านบนเกาะกะลา
ร้านค้าบนเกาะกะลา
มีบ่อน้ำจือที่ขุดไว้ในหมู่บ้านบนเกาะกะลา
เครื่องมืดจับสัตว์น้ำบนเกาะกะลา |
ไม่น่าเชื่อว่าหมู่บ้านบนเกาะกะลาจสะอาดและมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ village on the kala island it perfect |
|